การประชุมคณะกรรมการบริหาร การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

อังคาร ๒๔ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๐๙:๔๔
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 5/2560 ของ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) โดยมีท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ซึ่งมีสาระสำคัญ

ของการประชุม ดังนี้

1. เห็นชอบหลักการแผนการพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี

ที่ประชุมเห็นชอบหลักการแผนพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี โดยมอบให้ฝ่ายเลขานุการรับความเห็นของคณะกรรมการไปปรับปรุงแผนให้ครบถ้วนโดยเฉพาะเรื่องโครงการ โดยระยะสั้นต้องมีโครงการหลักที่ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมใหม่ และมีความชัดเจนว่าสถาบันการศึกษาใดจะสนับสนุนการพัฒนาบุคคลากรด้านใด ทั้งนี้ แผนนี้เป็นแผนงานหนึ่งใน 8 แผนงานของแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แผนนี้ดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี โดยมี ดร. คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกรศ. เป็นประธานและมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้แทนหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นอนุกรรมการ

การจัดทำแผนนี้ได้พิจารณาถึงความต้องการแรงงานของนักลงทุนเป็นหลัก ทั้งด้านปริมาณและสมรรถนะของแรงงานของอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 10 อุตสาหกรรม รวมทั้งได้พิจารณาถึงแนวโน้มความต้องการแรงงานภายใน5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2560 -2564) มาพิจารณาประกอบกับปริมาณการผลิตบุคลากรด้านที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ และแนวโน้มความสามารถในการผลิตบุคลากรรองรับ พบว่าอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็น New S-Curve นั้นเป็นอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญรองรับจึงต้องมีการเตรียมครูผู้ฝึก (Trainer) ในสาขาที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน และโลจิสติกส์ ให้เพิ่มจำนวนขึ้นและสำหรับในสาขาที่ประเทศไทยยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญอาจจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งทาง BOI จะใช้เป็นเงื่อนไขในการขออนุมัติการส่งเสริมการลงทุน และกระทรวงศึกษาธิการจะอนุญาตให้มหาวิทยาลัยจากต่างประเทศที่มีศักยภาพสูงมาเปิดสาขาที่ตอบรับต่อ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเป็นการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่ 27/2560 และ 29/2560 นอกจากนั้น ยังมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงระบบการศึกษาทั้งระบบในพื้นที่ EEC โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กตั้งแต่ระดับอนุบาลให้มีความสนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมนี้ ได้พิจารณาด้านการพัฒนาด้านวิจัยและเทคโนโลยีที่จะรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีกด้วย

แผนดังกล่าวประกอบไปด้วย แผนระยะสั้นและระยะยาว มีโครงการระยะเร่งด่วน 22 โครงการ พร้อมด้วย โครงการระยะปานกลางและระยะยาว จำนวน 13 โครงการ ในการนี้ โครงการระยะสั้นที่สำคัญจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ได้แก่ โครงการศึกษาและจัดทำหลักสูตรและฝึกอบรม: ระดับปริญญาตรี และอาชีวศึกษา เป็นการพัฒนาครูผู้ฝึก (Trainer) พร้อมทั้งพัฒนาเพื่อขยายผลให้มีครูฝึกจำนวนมากขึ้นและเพื่อขยายหลักสูตร 4 หลักสูตรนี้เข้าสู่การเรียนการสอนปีสุดท้ายของสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ

นอกจากนั้น ยังมีโครงการค่ายวิทยาศาสตร์สำหรับระดับมัธยมศึกษา และโครงการห้องสมุดวิทยาศาสตร์เคลื่อนที่สำหรับระดับประถมศึกษา และโครงการการศึกษานอกโรงเรียนในลักษณะของการดูงานนอกสถานที่สำหรับระดับประถมศึกษา คาดว่าโครงการเหล่านี้ จะใช้เป็นโครงการตัวอย่างที่ขยายผลการพัฒนาบุคคลากรในพื้นที่ EEC ในอนาคต

2. เห็นชอบหลักการสำหรับแนวทางการดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา(TG MRO Campus)

โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (TG MRO Campus) โดย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงที่มีความจำเป็นต่อสนามบินอู่ตะเภา ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยไปสู่ระดับโลก ดึงดูดสายการบินทั่วโลกให้มาใช้บริการ ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญและการสนับสนุนโครงการนี้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของกิจกรรมการซ่อมบำรุงอากาศยาน ณ สนามบินอู่ตะเภา และเพื่อให้การเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็นไปตามแผนงาน

ที่ประชุมให้ความเห็นชอบหลักการสำหรับแนวทางการดำเนินโครงการฯ โดยให้มีมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐในการก่อสร้างอาคารซ่อมบำรุง (Hangar) อาคารโรงซ่อมบริภัณฑ์ (Back shop) โรงพ่นสี (Painting Shop) พื้นที่ซ่อมบำรุงระดับลานจอด(Aircraft Parking Area และ Aircraft Swing Compass Area) และ สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมถึงระบบสาธารณูปโภค โดยเห็นชอบให้บริษัทการบินไทยเป็นผู้จัดทำข้อกำหนดความต้องการ ก่อนนำมาพิจารณาร่วมกับ สกรศ.และกองทัพเรือ ถึงขอบเขตความเหมาะสมและกรอบวงเงินในการลงทุนก่อสร้าง ทั้งนี้ ในส่วนของผลตอบแทนการลงทุนดังกล่าวจะมีการพิจารณาเรียกเก็บจากผู้ประกอบการในอัตราที่เหมาะสมต่อไป

3. รับทราบหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ 2560 และประกาศลำดับรอง

ที่ประชุมรับทราบว่า นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้ลงนาม ในประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 (ประกาศ EEC Track) แล้วเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ในการนี้ ที่ประชุมรับทราบประกาศ EEC Track ซึ่งมีประกาศลำดับรอง 5 ฉบับ ประกอบด้วย

1. ประกาศสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง รูปแบบ และรายละเอียดของรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ พ.ศ. 2560

2. ประกาศสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง คุณสมบัติของที่ปรึกษาไทยหรือที่ปรึกษาต่างประเทศ พ.ศ. 2560

3. ประกาศสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง รายละเอียดการประกาศเชิญชวน วิธีการประกาศเชิญชวน วิธีการคัดเลือกของคณะกรรมการคัดเลือกหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน รายละเอียดของเอกสารการคัดเลือก และข้อกำหนดมาตรฐานของสัญญาร่วมลงทุน พ.ศ. 2560

4. ประกาศสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง รายละเอียดที่ต้องจัดทำเพิ่มเติมในการเสนอให้คัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีการประมูล พ.ศ. 2560

5. ประกาศสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการรับฟังความเห็นจากภาคเอกชน พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ ประกาศ EEC Track และประกาศระดับรองดังกล่าวจะใช้กับโครงการร่วมลงทุนกับเอกชนตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ ได้ประกาศไว้ (EEC Projects List) ได้แก่

1. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Aerotropolis)

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม

2. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ

ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอคณะกรรมการนโยบายฯเพื่ออนุมัติหลักการโครงการ

3. โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะ 3

ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)

4. โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะ

ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)

5. โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา

ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอคณะกรรมการนโยบายฯเพื่ออนุมัติหลักการโครงการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version