พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเป็นทำเลที่น่าสนใจในอนาคต

พุธ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๐๔
ตลาดคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วเท่านั้น แต่ในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมาเริ่มเปลี่ยนไปซึ่งเรื่องนี้นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า "เนื่องจากราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองชั้นในที่ราคาที่ดินไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้วส่วนที่ดินในทำเลที่อยู่รอบๆ เมืองชั้นในราคาอาจจะต่ำกว่าแต่ก็มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินในราคาสูงไปจำเป็นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคามากกว่า 180,000 บาทต่อตารางเมตรหรือยูนิตละ 5 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับห้องขนาด 30 ตารางเมตรถึงมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้นบนที่ดินในพื้นที่เมืองชั้นใน โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน อีกทั้งคอนโดมิเนียมระดับราคาที่มากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปมีกลุ่มผู้ซื้อที่ไม่มากนักในตลาดผู้ซื้อของคนไทย"

สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยการ กล่าวว่า ที่เส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่หลายเส้นทางเริ่มมีการก่อสร้างและเห็นความคืบหน้าชัดเจนส่งผลให้ผู้ประกอบการเริ่มเข้าไปซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นส่งผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมสะสมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง (สีเขียวตอนเหนือและใต้, สีน้ำเงิน, สีแดง) มีจำนวนมากขึ้น แม้ว่าราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มขึ้นมากมายในช่วงที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงต่ำกว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้ว โดยจำนวนคอนโดมิเนียมเริ่มมีมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 เป็นต้นมา

คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่รายไตรมาสในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า/ใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วเปรียบเทียบกับพื้นที่ตามแนวเส้นทางที่กำลังก่อสร้างอยู่

จำนวนรวมของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2556 เป็นต้นมาในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วอยู่ที่ประมาณ 94,649 ยูนิต ในขณะที่พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างนั้นเพิ่มเริ่มมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้นในช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 เป็นต้นมา ดังนั้นจำนวนรวมของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้จึงอยู่ที่ประมาณ 65,635 ยูนิต แม้ว่าจะยังน้อยกว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วแต่มีแนวโน้มที่จำนวนคอนโดมิเนียมจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตและทำให้ช่องว่างนี้ลดลง

นายสุรเชษฐให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "เนื่องจากทำเลนี้ยังเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ประกอบการยังสามารถพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิตได้แตกต่างจากพื้นที่เมืองชั้นในหรือชั้นกลางที่ราคาที่ดินสูงมากและมีการปรับราคาขึ้นกันมากกว่า 15 – 20% ต่อปีหรือมากกว่านี้ในบางทำเลรอบสถานีรถไฟฟ้า ในขณะที่พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างนั้นมีการปรับราคาขึ้นกันที่ประมาณ 8 – 15% ต่อปีเท่านั้นและราคาขายที่ดินก่อนหน้านี้ก็ต่ำมากซึ่งทำเลเหล่านี้ส่วนใหญ่ที่ดินจะมีการปรับราคาในอัตราที่สูงขึ้นในช่วงปีพ.ศ.2557 เป็นต้นมา เมื่อมีผู้ประกอบการเข้าไปหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นเพราะเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้ว ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนรูปแบบของโครงการที่ของผู้ประกอบการคือ กำลังซื้อคนไทยที่ลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องหาทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการราคาไม่สูงมากได้และเป็นทำเลมีศักยภาพในการขยายตัวในอนาคตด้วยเพื่อจะได้สร้างความน่าสนใจให้กับโครงการของตนที่เปิดขายอีกทั้งยังสามารถดึงดูดนักลงทุนได้อีกส่วนหนึ่งด้วยส่งผลให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเป็นที่สนใจมากขึ้น"

แนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างในอนาคตคาดว่าจะมีการขยายตัวมากขึ้นกว่าปัจจุบันเพราะผู้ประกอบการยังคงต้องการที่ดินที่ราคาไม่สูงเกินไปเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของคนไทย อีกทั้งยังต้องการทำเลที่มีการขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อโครงการจะได้เป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุน ทำเลที่ตลาดคอนโดมิเนียมจะมีการขยายตัวต่อเนื่องนั้นก็ยังคงเป็นทำเลเดิมที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากอยู่แล้วในช่วงที่ผ่านมา เช่น พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต – คูคตโดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าวขึ้นไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ยังคงมีผู้ประกอบการรอเปิดขายโครงการใหม่อยู่ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง – สมุทรปราการที่ก่อนหน้านี้อาจจะชะลอตัวไปแล้ว 1 – 2 ปีแต่คาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้นในอนาคตแต่อาจจะเป็นทำเลที่ไกลออกไปจากสถานีพอสมควร อีกทำเลที่น่าสนใจคือพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินโดยเฉพาะตามแนวถนนจรัลสนิทวงศ์และเพชรเกษมที่เป็นอีกทำเลที่มีผู้ประกอบการเข้าไปเดขายโครงการกันหลายโครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าปีต่อไปก็จะยังเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจอยู่ ปีพ.ศ.2561

"ในอนาคตก็ยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเริ่มการก่อสร้างอีก 3 เส้นทางใหม่ คือสายสีส้ม สีมชมพู และสีเหลือง ถึงแม้ว่าบางสายจะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบาแต่ก็คาดว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางจะเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากขึ้นแน่นอนในอนาคต ส่วนพื้นที่เมืองชั้นในอาจจะเหลือแต่โครงการที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรหรือมากกว่านี้รวมไปถึงอาจจะมีโครงการที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวเปิดขายมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้เมื่อราคาที่ดินสูงเกินกว่าจะซื้อมาพัฒนาโครงการให้เหมาะกับกำลังซื้อของคนไทย" นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version