"ที่มาของแรงบันดาลใจงานโครงการสร้างสรรค์ในครั้งนี้มาจากเรื่องราวรอบพระองค์ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ แรงบันดาลใจที่เกิดจากปฐมบรมราชโองการคือโจทก์ของการสร้างสุขหาต้นเหตุ แห่งทุกข์ของมหาชนชาวสยาม และเกิดจาก ๘๙ พระชันษา ๗๐ ปีของการปกครองแผ่นดินสยาม รวมทั้งยังเกิดจากการค้นหาต้นเหตุแห่งทุกข์ของประชาชนชาวสยาม และจากต้นเหตุแห่งทุกข์ของประชาชนก็นำไปสู่การค้นหาวิธีการ แนวทางแก้ปัญหาจนบังเกิดเป็นโครงการพระราชดำริ๔๔๔๗+กว่าโครงการ ในตลอดระยะเวลาของการครองราชย์ ๗๐ ปี และจากต้นเหตุแห่งทุกข์ทรงค้นพบทฤษฏีใหม่ ศาสตร์พระราชาและหลักการทรงงาน ๒๓ วิธีของในหลวงรัชกาลที่๙ ต่อเนื่องไปจนถึงทรงค้นพบทฤษฎีสร้างสุขให้ประชาชนชาวสยามคือความพอดี ความพอประมาณ รู้หน้าที่ รู้รักสามัคคี มีคุณธรรม และมีความเพียรที่บริสุทธิ์ เป็นต้น เหล่านี้คือแรงบันดาลใจที่ผมนำมาเป็นต้นแบบในการวางแนวความคิดและวัตถุประสงค์ในการสร้างสรรค์โครงการในครั้งนี้ และผมยังมีความตั้งใจที่จะผลิตงานศิลป์ชิ้นสำคัญอีก ๑ ชิ้น ในวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่๙ และจะนำมาจัดแสดงที่นี่หลังวันที่ ๒๖ ตุลาคมนี้" ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าว
"โดยแนวคิดและวัตถุประสงค์ของโครงการสร้างสรรค์ ๘๙/๗๐/๔๔๔๗+=๙-๑๐การจัดแสดงผลงาน ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมศิลป์ และ ๒๓วิธีทรงงาน ประกอบไปด้วย
- เป็นแนวคิดที่มีการสรุปสาระพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลปด้วยความศรัทธาและสื่อแสดงออกเป็นผลงานสร้างสรรค์ตามทัศนจินตนาการส่วนตัว
- เป็นแนวคิดที่ต้องการสื่อสารถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช ออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ที่มีรูปแบบเทคนิควิธีการที่หลากหลาย แนวคิดและวิธีการ แต่สรุปประเด็นสาระ ความหมายตามทัศนจินตนาการส่วนตัว
- เป็นแนวคิดที่ต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านงานสร้างสรรค์ทัศนศิลป์ ในสาระพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นงานศิลป์สร้างสรรค์เพื่อเผยแพร่ในรูปแบบนิทรรศการศิลป์ สู่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของศิลปวัฒนธรรมและเรื่องราวในพระมหากษัตริย์ไทย ผู้มีพระวิสัยทัศน์ พระอัจฉริยภาพในทุกๆ ด้าน ที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดแก่มหาชนชาวสยาม
" ชิ้นงานทั้งหมด ๑๑๒ ชิ้น ที่มานำเสนอได้มาจาก ๒ยุค ยุคแรกเป็นผลงานสร้างสรรค์ก่อน ๑๓ตุลาคม ๒๕๖๐ ยุคสองจะเป็นผลงานสร้างสรรค์หลัง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ สรุปรวมผลงานทั้งสองยุคในโครงการทั้งสิ้น ๑๑๒ ชิ้นงาน ตั้งแต่ วันที่ ๑๓ ตุลาคม ผมทำงานทุกวัน ทำอย่างไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสแสดงหรือไม่ รู้แต่ว่าอยากทำและต้องทำ ทุกอย่างตกผลึกมาจากทั้งชีวิตของผมที่มีบุญอยู่ในช่วงแผ่นดินของรัชกาลที่ ๙ ส่วนในงานที่มีอยู่ก่อนแล้ว ผมก็ไปขอความอนุเคราะห์จากเจ้าของผลงานนำมาร่วมแสดง ที่สำคัญคือเป็นการจัดงานแสดงครั้งแรกที่ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีผู้สนับสนุนการจัดงาน ทางทีมงาน มาเห็นงานของผมที่คณะฯ แล้วขอนำมาจัดโดยบอกว่าจะจัดแบบ Crowdfunding ซึ่งครั้งแรกฟังผมก็ไม่เข้าใจ พวกน้องๆเขาเลยอธิบายว่ามันคือการจัดงานที่ให้โอกาสคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกมีส่วนร่วมในการจัดงานตามกำลัง ผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน เราจะได้มีโอกาสแสดงทุกรายชื่อของคนไทยที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน เป็นแนวคิดใหม่ที่ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในวงกว้าง อย่างไรก็ตามงานนี้จะมีขึ้นไม่ได้เลยหากเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) และสภากาชาดไทย ซึ่งผมต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพการแสดงความจงรักภักดีที่สำคัญอย่างยิ่งมาในโอกาสนี้ งานนี้คืองานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม" ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าวสรุป
ด้าน ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้จัดการโครงการ ได้กล่าวถึงแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ว่า "ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปพบอาจารย์ปรีชา แล้วได้เห็นรูปภาพมากมายที่อาจารย์วาดเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อาจารย์เล่าให้ฟังถึงแต่และภาพวาดที่ถ่ายทอดออกมาก เล่าถึงแรงบันดาลใจ ความหมายและคำสอนที่ซ่อนอยู่ในแต่ละภาพ ตัวดิฉันเองเมื่อได้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่า อยากให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นผลงานเหล่านี้ จึงขออาสาเป็นผู้รวบรวมผลงานทั้งหมด เพื่อไปจัดแสดงให้คนไทยทุกคนได้ชื่นชม หลังจากนั้นจึงวางแผนและเริ่มต้นหาทีมในการจัดงาน และงานในครั้งนี้นับเป็นงานครั้งแรกที่เราจัดงานด้วย2รูปแบบคือ Crowdsourcing และ Crowdfunding เพื่อหาผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่าคนไทยทุกคนรักในหลวงและทุกคนคงอยากเป็นผู้ร่วมในการจัดงานครั้งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อได้สอบถามคนรอบข้างว่ามีใครอยากที่จะร่วมกันจัดงานครั้งนี้บ้าง ก็มีหลายคนที่ตกปากรับคำเพื่อช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน โดยการจัดงานครั้งนี้ตั้งใจว่า จะไม่ขอการสนับสนุนจากองค์กรใด ๆ เพราะไม่อยากให้เป็นการจัดงานภายใต้ชื่อองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่อยากให้เป็นงานที่คนไทยทุกคนได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงและถวายพระเกียรติพระองค์ท่านด้วยใจที่บริสุทธิ์ และงานครั้งนี้เราจัดขึ้นได้ภายใต้คำว่า การร่วมใจ ทุกคนทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองอย่างเต็มกำลังเรียกว่าทำอย่างสุดใจจริง ๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันช่วยทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมาได้"
ซึ่งนอกจากผลงานจริงที่มีให้ชมภายในนิทรรศการแล้ว ทางทีมผู้จัดยังได้รวบรวมผลงานภาพในนิทรรศการครั้งนี้เป็นหนังสือรวมผลงานอาจารย์ ปรีชา ที่นำมาแสดงทั้งหมดในงาน ให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้ชื่นชมกัน เนื่องจากอาจารย์ตั้งใจ ไม่ขายรูปในงานนี้อย่างแน่นอน ทางอาจารย์จึงทำหนังสือนี้ขึ้นมาเพื่อรวบรวมผลงานทั้งหมดกว่า 111 ภาพ ไว้ในหนังสือภาพ ที่มี 2 แบบ คือ ฉบับภาษาไทยและฉบับภาษาอังกฤษ ให้ได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก ในราคา 4,900 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้สภากาชาดไทย และ โรงพยาบาลศิริราช โดยสามารถสั่งจองได้ที่ร้าน The Gallery Shop บริเวณหน้าหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ บรมราชินีนาถ ถ.ราชดำเนิน
ขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ โครงการสร้างสรรค์ ๘๙/๗๐/๔๔๔๗+=๙-๑๐ การจัดแสดงผลงาน ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมศิลป์ และ ๒๓วิธีทรงงาน โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยการแสดงงานนี้จะจัดขึ้นใน วันที่ ๑๙ ตุลาคม – ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ ด้วยการสนับสนุนโครงการผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาพหลโยธิน 40 ชื่อบัญชี "นิทรรศการพระราชกรณียกิจ ร.9 - 89/70/ 4447+= 9 เพื่อการกุศล โดย วช. "เลขที่บัญชี 9864093177" รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้สภากาชาดไทย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.แปดสิบเก้าทับเจ็ดสิบ.com หรือFB:โครงการสร้างสรรค์ 89/70/4447+=9