นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำการยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ในวันที่ 20 ตุลาคม 2560 เพื่อขออนุมัติดำเนินการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ TREIT ซึ่งภายหลังจากการแปลงสภาพแล้ว กองทรัสต์ TREIT จะมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 32,000 ล้านบาท อันจะทำให้ได้รับประโยชน์จากการมีสภาพคล่องสูง ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และการแปลงสภาพครั้งนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้นจากการเพิ่มความหลากหลายของทรัพย์สินและลูกค้า อีกทั้งเพิ่มความสม่ำเสมอของรายได้ด้วยจำนวนผู้เช่าที่เพิ่มมากขึ้น โดยกองทรัสต์ TREIT จะมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้า กระจายอยู่ใน 22 ทำเลที่ตั้ง ครอบคลุมทั้งสิ้น 7 จังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย โดยปัจจุบัน มีทรัพย์สินตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC และบริเวณโดยรอบกว่า 1.09 ล้านตารางเมตร และได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติในการเข้ามาลงทุนในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การแปลงสภาพยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการภายใต้ผู้จัดการกองทรัสต์เพียงรายเดียว รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการกู้ยืมเงินในอนาคตได้ถึง 60% ของทรัพย์สินรวม เนื่องจากเป็นกองทรัสต์ที่มีความน่าเชื่อถือระดับInvestment Grade ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ TREIT มีมติอนุมัติแผนในการลงทุนเพิ่มเติมภายหลังการรองรับการแปลงสภาพ โดยกองทรัสต์TREIT มีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมของกลุ่มบริษัทไทคอนภายหลังการแปลงสภาพกองทุนรวมเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท ด้วยวิธีการกู้เงินเพื่อมาซื้อทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการที่มีขนาดของกองทรัสต์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นแทนการเพิ่มทุน โดยภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมแล้ว จะทำให้กองทรัสต์ TREIT มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 36,000 ล้านบาท
"TMAN ขอขอบคุณผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 4 กองที่มาร่วมประชุมและออกเสียงกันอย่างคับคั่ง โดยมอบความไว้วางใจ และให้โอกาสบริษัทฯ ได้ทำการแปลงสภาพกองจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่า จะสามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ TREIT ให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดยิ่งๆ ขึ้นไป และสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีการเติบโตให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน TREIT ต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน" นายพีระพัฒน์ กล่าว