น.ส. สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์
ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
"มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ตลาดดำเนินการซื้อขาย โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศรวมสูงถึง 4.78 ล้านล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 760,975 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.93% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 ที่สำคัญจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับราคาหลักทรัพย์ในตลาด โดย SET Index ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 13.47% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 และผลจากการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 - สิงหาคม 2560 รวมกว่า 63,398 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 4.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 593,224 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.76% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 ขณะที่สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศอยู่ที่31.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) เพิ่มขึ้นจาก 30.85% ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 74,695 ล้านบาท ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 – พฤษภาคม 2560 ก่อนขายสุทธิในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าขายสุทธิ 11,296 ล้านบาท อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างประเทศยังเป็นผู้ซื้อสุทธิกว่า 63,398 ล้านบาท ในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 - สิงหาคม 2560
นักลงทุนต่างประเทศยังสนใจตลาดหุ้นไทยในระยะยาว โดยยังคงถือครอง foreign shares เป็นส่วนใหญ่ ประมาณ 78% ของมูลค่าการถือครองหลักทรัพย์รวมของนักลงทุนต่างประเทศ และในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 - พฤษภาคม 2560 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิใน local shares 113,930 ล้านบาท และขายสุทธิใน foreign shares 7,746 ล้านบาท ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิในหลักทรัพย์ NVDR ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่า 196,371 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 มีนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย 110 สัญชาติ เพิ่มขึ้นสุทธิ 6 สัญชาติจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนักลงทุน 10 สัญชาติแรกที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดยังคงเหมือนปีที่ผ่านมา คือ นักลงทุนจากสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สวิสเซอร์แลนด์ มอริเชียส เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และ ลักเซ็มเบริ์ก ตามลำดับ โดยมีมูลค่าการถือครองรวม 94.49% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศทั้งหมด
ประมาณ 74% ของมูลค่าการถือครองของนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มทรัพยากร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจบริการ และเมื่อพิจารณารายอุตสาหกรรมจากข้อมูลปีล่าสุด พบว่า เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีมูลค่าการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้น ยกเว้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่ลดลงจากการย้ายตลาด โดยนักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในกลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มธุรกิจบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นในสัดส่วนและมูลค่าค่อนข้างสูง
ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศรวมสูงถึง 4.78 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ตลาดดำเนินการซื้อขาย ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นกว่า760,975 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.93% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 ที่สำคัญจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับราคาหลักทรัพย์ในตลาด โดย SET Index ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 13.47% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 และจากการซื้อสุทธิในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 - สิงหาคม 2560 รวมกว่า 63,398 ล้านบาท ของนักลงทุนต่างประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติมเอกสารแนบ
ข้อความที่ปรากฎในรายงานฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัดอยู่ รายงานฉบับนี้จัดทำบนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแนวคิดแก่ผู้อ่านเท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม: (https://www.set.or.th/th/setresearch/information/setnote.html)