มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ภายใต้ปรัชญาของบริษัทฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการมอบ 'สิ่งที่ดีที่สุด' ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า ผ่านการนำเสนอรถยนต์ที่มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Compact Car กลุ่ม Contemporary Luxury กลุ่ม Dream Car และกลุ่ม SUV รวมจำนวนแล้วไม่ต่ำกว่า 49 รุ่น ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่มียอดขายเติบโตขึ้นต่อเนื่องมากว่าทศวรรษ ทั้งด้วยยอดจำหน่าย และยอดการส่งมอบรถยนต์หลักหมื่นคันต่อปี"
"และเพื่อเป็นการรองรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ จึงได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตัวของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ล่าสุดจึงได้ดำเนินการต่อสัญญากับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ที่บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เพื่อให้เป็นผู้ดูแลด้านการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบอย่างเป็นทางการเป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2561-2570 พร้อมเปิด 'ศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่' บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 100,000 ตารางเมตร บนถนน บางนา-ตราด กม. 30 ที่มีศักยภาพในการนำรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบ หรือ Pre Delivery Inspection (PDI) ได้มากกว่า 20,000 คันต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิมที่สามารถรองรับได้เพียง 12,000 คันต่อปีเท่านั้น"
"ศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาทั้งในด้านประสิทธิภาพ และศักยภาพ เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบรถยนต์ให้มีความสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการดำเนินงานทั้งหมดภายในศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่อยู่ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และบริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ในการวางระบบปฏิบัติงานที่เป็นไปตามขั้นตอน และข้อกำหนดตามนโยบายของกลุ่ม บริษัทเดมเลอร์ เอจี เพื่อการส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในด้าน "การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ผ่านการส่งมอบรถยนต์ที่มีความเสียหายจากการผลิตเป็นศูนย์ (Zero Defect Customized Vehicles with Customer Delight)" มร.ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติม
นายวันชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในฐานะผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทยว่า "บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มามากกว่าหนึ่งทศวรรษ บริษัทฯ มั่นใจว่า 'ศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่' ที่บริษัทฯ ได้ย้ายจากถนนบางนา-ตราด กม. 19 มาอยู่ที่ถนน บางนา-ตราด กม. 30 บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตรนั้น มีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้าน สามารถตอบสนองปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากมีพื้นที่ในการดำเนินงานเพิ่มจากเดิมประมาณ 4 เท่า จึงสามารถครอบคลุมกิจการต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่การมีพื้นที่รองรับในการจอดรถ (Parking) ได้มากกว่า 2,000 คัน การตรวจสอบในขั้นตอน PDI และ การเตรียมความพร้อม (Preparation) รถยนต์ทั้งกลุ่มรถยนต์ประกอบในประเทศ (CKD) และรถยนต์นำเข้า (CBU) ตลอดจนการดูแลรักษา (Maintenance) ก่อนส่งมอบให้ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ"
"นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพในขั้นตอนการทำ PDI ด้วยการนำความรู้และเทคโนโลยีของประเทศเยอรมนีมาผสมผสานกับความชำนาญและฝีมือของทีมช่างผู้ชำนาญการชาวไทยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท บางชันฯ โดยศูนย์แห่งนี้จะประกอบด้วย ผู้บริหารทั้งชาวเยอรมันและชาวไทยที่มีประสบการณ์ในด้านรถยนต์มามากกว่า 30 ปี และ บริษัทฯ ยังพร้อมด้วยพนักงานที่มีความชำนาญในแต่ละด้านอีกทั้งมีประสบการณ์ในการทำรถยนต์โดยเฉลี่ยกว่า 10 ปี"
ขั้นตอนการทำ PDI ที่บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี อุปกรณ์ และเครื่องมือพิเศษมาพัฒนาเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้
- ได้นำเทคโนโลยีอันทันสมัยด้วยการติดตั้งระบบ Conveyor System โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยเพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายรถยนต์เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ในการทำ PDI
- ได้นำอุโมงค์รางเลื่อนล้างรถอัตโนมัติ (Automatic washing conveyor system) มาใช้ในการทำความสะอาดรถยนต์โดยอุโมงค์รางเลื่อนอัตโนมัตินี้สามารถทำความสะอาดรถยนต์ได้ทุกซอกทุกมุมด้วยความละเอียดและปราณีต ในเวลาที่รวดเร็วมากกว่า 100 คันภายใน 2 ชั่วโมง
- บริษัทฯ ได้ติดตั้งอุโมงค์ไฟ LED ขนาดใหญ่ (Light Tunnel) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระจายแสงได้ดีเยี่ยม ทำให้สามารถตรวจสอบความเรียบร้อยของสีรถยนต์ได้อย่างละเอียดและชัดเจนเป็นพิเศษ
- ในด้านการตรวจระบบกลไกทุกระบบ (Mechanic) โดยใช้อุปกรณ์จากประเทศเยอรมนีในการตรวจเช็ค
- โซลาเซลล์ ได้ถูกติดตั้งบนหลังคา เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และนำมาใช้ทดแทน 25% ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด เพื่อลดมลภาวะ และรักษาสิ่งแวดล้อม
- ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์โดยใช้ Brake Tester ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเข้าจากประเทศเยอรมนี เพื่อตรวจเช็คและยืนยันค่ามาตรฐานให้เป็นไปตามที่โรงงานของประเทศเยอรมนีกำหนด
- อาคารซ่อมสี บริษัทฯ ได้ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการซ่อมสี ในกรณีที่เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานที่โรงงานกำหนดโดยใช้ห้องพ่นสี สมาร์ทรีแพร์ ใช้เทคโนโลยีทำให้สีแห้งด้วยยูวี (ไม่ใช้ความร้อน) เป็นการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และห้องพ่นสีหลัก ลดมลภาวะ โดยใช้ระบบ ไออาร์ (ไม่ใช้ความร้อนจากแก๊สในการอบสี) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระบวนการ PDI ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้บริษัทฯ สามารถตรวจสอบ จัดเตรียม และส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานโรงงานเพื่อรองรับกับยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคต
กระบวนการตรวจสอบรถยนต์ก่อนการส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกอบด้วย
ขั้นตอนเตรียมรถยนต์ก่อนการตรวจสอบคุณภาพ (Pre-PDI)
- การรับรถที่ขนส่งมาจากโรงงาน (Receive Process)
- การจอดรถยนต์ก่อนเข้าสู่ขั้นตอน PDI (Parking)
- การล้างทำความสะอาดรถ (Wash & Clean)
- การติดตั้งอุปกรณ์เสริมหรืออะไหล่ภายนอกรถก่อนเข้าสู่ขั้นตอน PDI (Accessory Fit)
ขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบ (PDI)
- การตรวจสอบคุณภาพภายนอก (PDI – Exterior)
- การตรวจสอบคุณภาพภายในและการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า (PDI – Interior)
- การตรวจสอบบริเวณช่วงล่างรถยนต์ (PDI – Underbody)
- การตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้ารถยนต์ (Xentry Diagnosis Test)
ขั้นตอนหลังการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบ (Post-PDI)
- การทำความสะอาดรถยนต์ก่อนส่งมอบ (Finish & Cleaning)
- การตรวจสอบรอบสุดท้ายโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดำเนินงานด้านเอกสาร (BAP & Retail Preparation)
- โดยทุกขั้นตอนจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมช่างผู้ชำนาญการของบริษัท บางชันฯ โดยใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าทุกท่าน
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่
ศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่ได้นำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในทุกด้านของการดำเนินงาน อาทิ การใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อทดแทนพลังงานฟอสซิล อย่างเช่น ก๊าซ การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการดำเนินงานประจำวัน เพื่อชดเชยพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้เพิ่มเติมในแผนกสี โดยปัจจุบันทางศูนย์ฯ ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาเซลล์คิดเป็นร้อยละ 25 จากอัตราการใช้พลังงานทั้งหมด อีกทั้งการนำน้ำจากเครื่องล้างรถมาผ่านกระบวนการบำบัด และหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ โดยมีความสามารถในการรีไซเคิล และลดการใช้น้ำลงได้ถึงร้อยละ 70