ที่ผ่านมาข้าวหอมมะลิไทยจะเป็นที่รู้จักเฉพาะในเขตเมืองเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลของจีน แต่หลังจากขายผ่านระบบช่องทางการค้าออนไลน์ (E-Commerce) ของ Alibaba group ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด ข้าวหอมมะลิจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และยังกระจายไปยังเมืองอื่น ๆ ทั่วประเทศจีน อาลีบาบาจึงเปรียบเสมือนสะพานระหว่างสองประเทศ เชื่อมโยงชาวนาไทยให้สามารถส่งออกข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพสูงทั้งด้านความปลอดภัยจากสารเคมีและความสดใหม่ ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคชาวจีน อีกทั้งยังช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น โดยผู้บริโภคได้รับของดีในราคาที่เหมาะสม
"ข้าวหอมมะลิเป็นสินค้าที่ชาวจีนนิยมมาก เพราะชื่อเสียงและคุณสมบัติพิเศษที่มีความหอมและนุ่ม ถูกปากผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิที่เพิ่งออกใหม่จะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เป็นที่ต้องการของชาวจีน แต่ปัจจุบันมีปัญหาในด้านการปลอมปน ทำให้ชาวจีนไม่แน่ใจว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิแท้หรือไม่ จึงต้องการที่จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณลักษณะพิเศษของข้าวหอมมะลิไทย ตั้งแต่การปลูกจนถึงการส่งออกมาประเทศจีน และวิธีการสังเกตว่าของแท้ที่เป็นไปตามมาตรฐานส่งออกของกระทรวงพาณิชย์กับข้าวหอมมะลิทั่วไป ที่อาจมีการปลอมปนข้าวประเภทอื่นที่ไปบรรจุในประเทศจีน" นางสาวชุติมา กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารอาลีบาบา ได้ร่วมกันเปิดตัวการสั่งจองข้าวหอมมะลิไทยออนไลน์ล่วงหน้า (The Global Pre Sell New Crop Thai Rice) ซึ่งหลังจากการเปิดให้จอง ปรากฏว่าในวันนั้นข้าวหอมมะลิของไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยยอดสั่งจองเป็นอันดับ 2 ของสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค และได้ประชุมหารือการเชื่อมโยงตลาดข้าวหอมมะลิไทยจากชาวนาสู่อาลีบาบา เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ชาวนาหรือผู้ประกอบการได้มีช่องทางในการขายข้าวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย