ก.ล.ต. มุ่งพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย พร้อมยกระดับการคุ้มครองผู้ลงทุน

พุธ ๐๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๓:๔๗
ก.ล.ต. ส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย โดยปรับเปลี่ยนเกณฑ์ให้เหมาะกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้ลงทุนในปัจจุบัน เพื่อให้ตราสารหนี้เป็นทางเลือกสำคัญของการระดมทุน ในขณะที่มีการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า "ตลาดตราสารหนี้ถือเป็น 1 ใน 3 เสาหลักของเศรษฐกิจไทย ควบคู่กับตลาดตราสารทุนและระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้มีอัตราการเติบโตมากอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศมาอยู่ที่ร้อยละ 75 ในช่วงระยะ 20 ปีที่ผ่านมา โดย ณ 30 กันยายน 2560 มียอดมูลค่าคงค้างตราสารหนี้เอกชน 3.78 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นหุ้นกู้ร้อยละ 92 และตั๋วเงินอีกร้อยละ 8"

"ก.ล.ต. ยึดหลักสร้างความสมดุลระหว่างการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจใช้ตราสารหนี้เป็นทางเลือกในการระดมทุนได้โดยไม่มีภาระมากจนเกินไป คู่กับการมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนในระดับที่เหมาะสม เพราะตราสารหนี้ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนได้ โดยความเข้มอ่อนของหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลการออกและเสนอขาย

ตราสารหนี้จะแยกตามประเภทผู้ลงทุน โดยหากเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปในวงกว้าง จะมีเกณฑ์ที่เข้มมากกว่าการเสนอขายในวงจำกัด ที่มีทั้งการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ และการเสนอขายต่อผู้ลงทุนแบบจำกัดจำนวนผู้ลงทุนอยู่ในวงแคบ ซึ่งเกณฑ์จะมีความผ่อนปรนมากกว่า"

อย่างไรก็ดี สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีกรณีบริษัทที่ออกตราสารหนี้บางแห่งใช้ช่องทางการระดมทุนแบบจำกัดจำนวนผู้ลงทุนไปอย่างผิดวัตถุประสงค์ คือ กระจายการขายช่องทางนี้ไปยังผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งไม่รู้จักคุ้นเคยกับบริษัท ประกอบกับผู้ลงทุนมีพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทน (search for yields) ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวกลางในการเสนอขายตราสารหนี้เหล่านี้ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เพียงพอ จึงทำให้ผู้ลงทุนมองข้ามความเสี่ยงในการลงทุน ก.ล.ต. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเพิ่มมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุนมากขึ้น อาทิ จำกัดการขายตั๋วเงิน ให้ใช้ระดมทุนเฉพาะวงจำกัดไม่ให้กระจายวงกว้าง มีการเพิ่มกลไกการคุ้มครองผู้ลงทุนมากขึ้น เช่น การขายหุ้นกู้ระยะยาวให้ผู้ลงทุนรายใหญ่ ต้องมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และมีการเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในชั้นหลักการไปแล้วในช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา และกำลังจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในชั้นการยกร่างประกาศ ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้" นางจารุพรรณ กล่าวเสริม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๙ บริษัท แอลที กรุ๊ป เทคโนโลยี จำกัด จับมือพาร์ทเนอร์ร่วมทุน รุกตลาดจอ Commercial Display และ Industrial Display ประเภท LCD และ LED
๐๘:๕๐ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สร้างปรากฏการณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ในงาน TEDxBangkokU 2025
๐๘:๐๐ ไฮเออร์ ผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก เปิดตัวแอร์ UV Cool Voice Series ใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยีสุดล้ำ ชูนวัตกรรม 'AI Voice' 2
๐๘:๐๐ นศ.ปธร. รุ่นที่ 1 สถาบันพระปกเกล้า เชิญร่วมเป็นสปอนเซอร์ สนับสนุนกอล์ฟการกุศล ถ้วยเกียรติยศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
๐๘:๐๐ โปรโมชั่นพิเศษสุดชิค! Work Perks ชวนเพื่อนมาเปลี่ยนวันจันทร์ให้เป็นวัน Hangout สุดมันส์ ที่ The Mesh โรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน สุขุมวิท
๑๗:๑๑ LINE เผยแนวคิดการสร้างแบรนด์สำหรับ SME ไทยแนะเทคนิคใช้โซลูชัน LINE สร้างแบรนด์ ปั้นยอดขายครบวงจร
๑๗:๔๘ ดั๊บเบิ้ล เอ เผยผลประกอบการปี 2567 สุดแข็งแกร่ง! รายได้โตต่อเนื่อง กำไรเพิ่มขึ้น 22.6% เดินหน้าสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
๑๗:๐๐ เขตสัมพันธวงศ์เร่งติดตามชาวต่างชาติลักลอบติดสติกเกอร์เสาไฟฟ้าย่านเยาวราช
๑๗:๐๐ รางวัล บุคคลเกียรติยศของประเทศ ประจำปี 2567
๑๗:๕๑ Kaspersky รายงานการขโมยข้อมูลธนาคารบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2024