นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ยินดีต้อนรับ บมจ. แอ็พพลาย ดีบี ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว เข้า จดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "ADB" ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560
ADB ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตสายไฟ สายเคเบิ้ล ขอบคิ้วเฟอร์นิเจอร์ ข้อต่อท่อพีวีซี ขึ้นรูปพื้นรองเท้า เป็นต้น และกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว ใช้สำหรับยึดติดวัสดุและอุดรอยรั่วที่จำเป็นต่อการใช้งานในทุกอุตสาหกรรมและทุกครัวเรือน โดยจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มีผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ และรับจ้างผลิตให้กับตราสินค้าชั้นนำที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล
ADB มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 420 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2560 ในราคาหุ้นละ 1.69 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 304.20 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,014 ล้านบาท มี บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายหวัง วนาไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอ็พพลาย ดีบี (ADB) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพได้รับการรับรองในระดับสากล มีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่มีศักยภาพในอนาคต เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องมือ เครื่องจักรใหม่รองรับการขยายธุรกิจ ใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่ม รวมทั้งนำไปชำระเงินกู้ยืมคืนสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต
ADB มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายรัตนชัย วงษ์เจริญสิน ถือหุ้น 25.28% กลุ่มนายหวัง วนาไพรสณฑ์ ถือหุ้น 21.48% และกลุ่มนายภวัต วงศ์ตั้งตระกูล ถือหุ้น 15.75% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.69 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 28.03 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 กรกฎาคม 2559-30 มิถุนายน 2560) ซึ่งเท่ากับ 36.17 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.06 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในแต่ละปีจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายกำหนด
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.adb.co.th และ www.set.or.th