นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เผยว่า หลังจากปรากฎการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนเกิดน้ำท่วมขังในหลาย ๆ จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน ภาคใต้ รวมทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ ละปริมณฑล จนกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจสร้างบ้าน และคาดว่าจะกระทบต่อการขยายตัวของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 4 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นแล้ว ปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้บริษัทฯต้องเร่งปรับตัวรับสถานการณ์ ทั้งนี้เพื่อจะดึงความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีความกังวลกลับคืนมา โดยบริษัทฯได้ผสมผสานภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนกับแนวคิดการออกแบบทางสถาปัตยกรรม เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมไปพร้อมกับมีรูปแบบบ้านที่ทันสมัย และนำมาใช้เป็นจุดขายในครั้งนี้
"ยอมรับว่ามีความกังวลค่อนข้างมากกับปัญหาน้ำท่วม หลังจากเคยร่วมประสบชะตากรรมมาแล้วเมื่อปี 2554 แต่ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้สถานการณ์ดูจะยากลำบากยิ่งกว่า ด้วยเพราะเศรษฐกิจของประเทศและกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก กอปรกับสภาพการแข่งขันราคาที่รุนแรงของตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้ แนวทางการปรับตัวและแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการ จึงต้องให้ความสำคัญทั้งด้านการก่อสร้างและการตลาดไปพร้อม ๆ กัน อย่างเช่น รูปทรงของบ้านที่ต้องอาศัยการออกแบบหรือดีไซน์ให้สามารถลดผลกระทบปัญหาน้ำท่วมได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้มีเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ จึงนับเป็นโจทย์ที่บริษัทฯ ต้องหันมาสนใจและให้ความสำคัญมากขึ้น"
ปัจจุบัน ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มีสาขาอยู่ทุกภูมิภาค สำหรับการสร้างบ้านเกือบทุกหลังจะใช้ระบบก่อสร้างเสา-คานสำเร็จรูป ที่เรียกว่า มัลติจอยท์ล็อคซิสเต็ม (Multi-joint Lock System) เป็นเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพมาจากโรงงาน จากนั้นจึงนำไปประกอบและติดตั้งที่ไซต์ก่อสร้าง โดยบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 100-200 ตร.ม. จะใช้ระยะเวลาติดตั้งโครงสร้างประมาณ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ช่วยลดปริมาณงานคอนกรีตเสริมเหล็ก และลดระยะเวลาในการก่อสร้างที่ไซต์งานลง สำคัญที่สุดแม้ว่าจะมีฝนตกก็ไม่เป็นอุปสรรคมากนัก เพราะยังสามารถทำการก่อสร้างได้เกือบเป็นปกติ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของพีดีเฮ้าส์และสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งในตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด
นายพิศาล เปิดเผยอีกว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวบ้านบ้านใหม่ 4 แบบ ภายใต้แนวคิด "Protex Home" หรือ "บ้านปกป้องน้ำท่วม" ด้วยการนำภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนมาประยุกต์กับงานออกแบบหรือดีไซน์สมัยใหม่ เน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุดในงบประมาณที่คุ้มค่า พร้อมทั้งยังคงให้ความสำคัญในเรื่องวัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกนำมาใช้ก่อสร้างบ้าน เพื่อให้เป็นบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับ แบบบ้านใหม่ 4 แบบ ประกอบด้วย แบบ้าน F-275 ราคาค่าก่อสร้าง 3.5 ล้านบาท แบบบ้าน F-276 ราคา 3.7 ล้านบาท แบบบ้าน F-277 ราคา 3.9 ล้านบาท และ แบบบ้าน WA-171 ราคา 3.4 ล้านบาท โดยราคานี้เป็นราคาพิเศษเฉพาะในช่วงเปิดตัวแบบบ้านหรือภายใน 31 ธ.ค. 60 นี้เท่านั้น หลังจากนั้นจะปรับเพิ่ม 7% หรือขายตามราคาปกติ โดยในช่วงเปิดตัวเฉพาะ 4 แบบบ้านใหม่ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 10 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 37 ล้านบาท นายพิศาล กล่าวทิ้งท้าย