นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (COMAN) ผู้ผลิตและพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้ในโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 118.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.36 ล้านบาท หรือ 34.34% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 88.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.03 ล้านบาท หรือ 0.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18.20 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้เต็มจำนวนจากการถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของบริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาเพื่อจำหน่าย ติดตั้ง โปรแกรมสำเร็จรูประบบนายหน้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม เข้ามาในไตรมาส 3/2560 และต่อเนื่องในไตรมาส 4 /2560
"แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 72.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7.54 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงแรม ประกอบกับบริษัทฯได้เจรจากับโรงแรมใหม่ๆ ในการเข้าติดตั้งระบบ ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเติบโต 10-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายสมบูรณ์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับซินเนเจอร์ฯ ในการเข้าวางและเชื่อมระบบซอฟต์แวร์ในธุรกิจสปา โดยคาดว่าภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจะได้ข้อสรุปรูปแบบ และแนวทางการลงทุนร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการวางแผนการลงทุน เพื่อเพิ่มรายได้ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนในการซื้อกิจการ จากเดิมที่บริษัทฯ วางแผนเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 3 ปี (2560-2562) เพื่อให้ครบทุกกลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตามเป้าหมายและงบลงทุนที่วางไว้ราว 200 ล้านบาท
"เดิมตั้งเป้าหมายที่จะเข้าไปซื้อกิจการธุรกิจสปา แต่ปัจจุบันคงไม่เข้าไปซื้อแล้ว เพราะ "ซินเนเจอร์ฯ" ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 51% มีธุรกิจสปาอยู่แล้ว ซึ่งสามารถลงทุนร่วมกันในธุรกิจดังกล่าวได้เลย ทำให้มีเงินลงทุนเหลือไว้ขยายการลงทุนและต่อยอดธุรกิจในอนาคต ส่วนรูปแบบการลงทุนจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งหากได้ข้อสรุปอย่างไรจะแจ้งให้ทราบในทันที" นายสมบูรณ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (COMAN) กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนขยายกลุ่มลูกค้าให้บริการเช่าโปรแกรมในการจัดการจองที่พักโรงแรมระดับล่าง หรือ 1-2 ดาว ที่จะช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตในอนาคตนั้นคาดว่าไตรมาส 1/2561 จะเริ่มดำเนินการได้ ขณะที่การเพิ่มตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ในต่างประเทศบริษัทฯ ได้เร่งขยายให้เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือเป็น 18 ประเทศ ในปี 2561จาก 10 ประเทศในสิ้นปีนี้ แบ่งเป็นในแถบเอเชีย 10 ประเทศ ตะวันออกกลาง 4 ประเทศ ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรในอนาคตขยายตัวในทิศทางที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง