นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า ""กรุงศรี ฟินโนเวต บรรลุข้อตกลงในการร่วมลงทุนรอบ Series B plus ในโอมิเซะ ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งที่สองของกรุงศรี ฟินโนเวต ในปี 2560 นี้ และยังนับได้ว่าเป็นเม็ดเงินการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยครั้งใหญ่ของสถาบันการเงินไทยอีกด้วย ในฐานะที่กรุงศรี ฟินโนเวต เป็นบริษัทในเครือกรุงศรี เราเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจการชำระเงินออนไลน์และการเติบโตของยอดธุรกรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นผ่านโอมิเซะ อีกทั้งยังเห็นถึงศักยภาพและโอกาสที่โอมิเซะจะสามารถขยายและรุกไปสู่ตลาดอีคอมเมิร์สในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนำเสนอบริการด้านการชำระเงินในภูมิภาคดังกล่าว""
""ด้วยความเชี่ยวชาญของโอมิเซะในด้านระบบชำระเงินออนไลน์และเทคโนโลยีบล็อคเชน ภายใต้ OmiseGO กรุงศรีมีแผนจะนำเอาเทคโนโลยีการชำระเงินออนไลน์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ นวัตกรรมการโอนเงินและชำระเงินแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน อย่าง OmiseGO จะมีโอกาสช่วยสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในด้านดิจิทัลของกรุงศรี อาทิ KMA, Di-wallet และแอปพลิเคชัน U-Choose ได้อีกด้วย"" นายแซม กล่าวเพิ่มเติม
การบรรลุความสำเร็จในการลงทุนครั้งนี้ยังตอบโจทย์ในเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองบริษัทอีกด้วย ด้วยความแข็งแกร่งของทั้งสองในการสนับสนุนการเติบโตของนวัตกรรมทางการเงินและการประยุกต์บริการด้านการชำระเงินออนไลน์ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่แข็งแกร่งของกรุงศรีในไทยและศักยภาพของ MUFG ที่มีเครือข่ายกว่า 2,000 แห่งในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของโอมิเซะในการสร้างรากฐานบริการการชำระเงินออนไลน์ที่ไม่ใช่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ โอมิเซะจะสามารถช่วยสนับสนุนธุรกิจด้านการชำระเงินออนไลน์ของกรุงศรีในไทย โดยการนำเสนอโซลูชันด้านการชำระเงินในแบบ end-to-end ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์การชำระเงินได้ดีขึ้น
นายจุน ฮาเซกาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทโอมิเซะ และ โอมิเซะโก กล่าวว่า ""นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นวงการฟินเทคกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ตอบโจทย์ในเชิงกลยุทธ์ของเรา ก่อให้เกิดความร่วมมือกับสถาบันการเงิน อย่าง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ MUFG ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของระบบรวมถึงเครื่องมือที่จะช่วยทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจให้มีบริการทางการเงินที่ดีขึ้น""
""ขณะที่เราวางแผนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์มที่จะเข้ามารองรับบริการด้านการเงินในอนาคตผ่านเครือข่าย OmiseGO เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราทั้งหมดเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายที่
แข็งแกร่ง และขยายการให้บริการออกไปยังนานาประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอีกด้วย"" นายจุน ฮาเซกาวา กล่าวเสริม
ภายหลังการระดมทุนในรอบ Series B ของโอมิเซะเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้ทำการระดมทุนอีกครั้งผ่าน ICO (Initial coin offering) รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม OmiseGO ซึ่งจะเป็นบล็อกเชนสาธารณะที่สร้างบนเครือข่าย Ethereum โดยมีเป้าหมายที่จะอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับบริการด้านการเงินและการแลกเปลี่ยนมูลค่าในอนาคต