นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ในประเทศญี่ปุ่น รายแรกของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงิน ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) วงเงินสินเชื่อจำนวน 2,205 ล้านเยน หรือ 661.50 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) จำนวน 8 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 เมกะวัตต์ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ของบริษัทฯ ในปัจจุบันได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว 15 โครงการ ที่เมืองเบปปุ จ.โออิตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา และจะดำเนินการเปิด COD อีกจำนวน 8 โครงการดังกล่าว ซึ่งการเปิด COD โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ เป็นไปตามแผนที่บริษัทฯ กำหนดไว้ จะส่งผลให้สิ้นปี 2560 บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ รวมทั้งสิ้น 23 โครงการ โดยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งหมด 2,875 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 23 เมกะวัตต์ และจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้
ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวเพิ่มเติมถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind Energy) ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 7 โครงการ ได้เริ่ม COD ในไตรมาส 3/2560 และ ไตรมาส 4/2560 ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเช่นเดียวกัน
ดังนั้นบริษัทฯ มั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจพลังงาน จะช่วยดันรายได้รวมในปี 2560 นี้ ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 1,800 ล้านบาท และรับรู้รายได้เข้ามาอย่างเต็มที่ในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลบวกกับการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอน
ด้าน นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวเพิ่มว่า การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนในต่างประเทศของธนาคารในครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่ ซึ่งทางบริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE เป็นผู้ประกอบการไทยรายแรกที่ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการนำเอาพลังงานความร้อนที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนซึ่งมีเสถียรภาพและเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางสังคมในญี่ปุ่น
""การสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น นอกจากเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการไทยรายอื่นลงทุนในธุรกิจนี้แล้ว ยังช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยีและการผลิตพลังงานหมุนเวียนจากแหล่งพลังงานธรรมชาติ ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นพันธกิจโดยตรงและสอดคล้องกับนโยบายของ EXIM BANK ที่จะบุกเบิกและพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่"" นายพิศิษฐ์กล่าว