นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคแบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมได้แก่จำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำเสีย และธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 3เป็นโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer –SPP) โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทฯ ย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99) และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ25.01 และร้อยละ 74.99 ตามลำดับ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาทั้งสิ้น 125 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไอน้ำตามสัญญา 25 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ทั้งนี้โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 3 เป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4 ในการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด ที่ได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2560 ถัดจากโรงไฟฟ้า กัลฟ์ วีทีพี โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 1 และ โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 2 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 วันที่ 8 กรกฎาคม 2560 และวันที่ 1 กันยายน 2560 ที่ผ่านมาตามลำดับ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP กล่าวว่า ปัจจุบัน WHAUP มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 478.4 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้า 4โรงดังกล่าวข้างต้น) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกจำนวน 63.6 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในปี 2561-2562