นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ (K-SME Franchise Credit) สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของร้านฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ เพื่อใช้ในการลงทุนในสาขาใหม่ วงเงินสินเชื่อระยะยาว 2 แบบ ได้แก่ สินเชื่อแบบมีหลักประกัน วงเงินสูงสุด 70% ของมูลค่าการลงทุน ผ่อนนานสูงสุด 6 ปี และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน วงเงินสูงสุด 70% ของมูลค่าการลงทุน ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี และบสย.ค้ำประกันได้สูงสุด 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตดี โดยเฉพาะแฟรนไชส์ร้านอาหารที่มีแบรนด์ และตอบรับไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบัน มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง จึงเป็นกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมลงทุนมาก ซึ่งเห็นได้จากมีแฟรนไชส์ร้านอาหารในปี 2560 รวม 128 กิจการ คิดเป็น 23.% ถือเป็นกลุ่มธุรกิจอันดับหนึ่งจากจำนวนแฟรนไชส์ทั้งหมด ที่สำคัญเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตมากกว่าธุรกิจแฟรนไชส์กลุ่มอื่น ๆ จึงเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการที่สนใจธุรกิจร้านอาหารที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
นายพิภวัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดธุรกิจร้านอาหารในปี 2560 มีมูลค่า 390,000-397,000 ล้านบาท เติบโต 2-4% จากปี 2559 แบ่งเป็นมูลค่าเชนร้านอาหาร 119,000-122,000ล้านบาท และมูลค่าร้านอาหารทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มร้านอาหารขนาดกลางและเล็ก 271,000-275,000 ล้านบาท โดยในกลุ่มนี้จะมีส่วนร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR (Quick Service Restaurant) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 44,000 ล้านบาท
สำหรับร้านฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ จัดอยู่ในกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนที่มีการเติบโตสูง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตแบบเร่งรีบทำให้เกิดความนิยมเข้าไปใช้บริการในร้านอาหารบริการด่วนเพิ่มขึ้น รวมถึงเทรนด์การสั่งอาหารมารับประทานในที่ทำงานหรือที่บ้านมีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลให้ร้านฮั่วเซ่งฮงติ่มซำมีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้ธนาคารมีความมั่นใจและพร้อมให้การสนับสนุนด้านการเงินในครั้งนี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ธนาคารยังพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการ SME คู่ค้าธุรกิจ ปตท. แบบครบวงจร ทั้งการสร้างและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน ซื้อน้ำมัน รวมถึงร้านค้าแฟรนไชส์ต่างๆ
นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ ปตท.ให้ความสนใจ เนื่องจากอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ และคนไทยรุ่นใหม่นิยมทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจร้านอาหารยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา ปตท.ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ร้านโดนัทแดดดี้ โด และร้านไก่ทอดเท็กซัส การขยายธุรกิจสู่แฟรนไชส์ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ถือเป็นการสนับสนุนร้านอาหารแบรนด์คนไทยให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ เป็นแบรนด์ที่ต่อยอดจากภัตตาคารอาหารจีนฮั่วเซ่งฮง ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์อาหารจีนมากว่า 40 ปี เมนูมีความหลากหลายทั้งติ่มซำ พายพัฟ พายเปี๊ยะ อาหารจานเดียว และเครื่องดื่มสมุนไพร โดยเฉพาะติ่มซำ เป็นอาหารนานาชาติที่ได้รับความนิยมทั่วโลก คุณภาพรสชาติได้มาตรฐานในระดับภัตตาคารสามารถทานได้ทั้งครอบครัว จึงมีกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพรองรับจำนวนมาก
นายสุชาติ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ปตท.และฮั่วเซ่งฮง ในการเปิดแฟรนไชส์ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำนั้น เป็นความตั้งใจในการขยายธุรกิจร้านอาหารจีนในรูปแบบ QSR (Quick Service Restaurant) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น การให้บริการเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งนี้ ปตท. เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในประเทศไทย และกำหนดแผนงานร่วมกับฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ที่จะขยายสาขาภายในสถานีบริการน้ำมัน อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า ซึ่งได้ให้สิทธิ์เปิดร้านแฟรนไชส์ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำให้แก่ผู้สนใจลงทุนและมีผู้สนใจเริ่มทยอยเปิดแฟรนไชส์กันมากขึ้น โดยปตท.พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของแฟรนไชส์ซี รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการลงทุน เช่น ธนาคารกสิกรไทย ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่ช่วยผลักดันเรื่องการลงทุนให้แก่ผู้สนใจ โดยสิ้นปีนี้จะมีร้านสาขามากกว่า 50 สาขา และมีเป้าหมายขยายสาขากว่า 400 สาขาในระยะเวลา 10 ปี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โทร. 02- 537 3030
นายพิภวัตว์ กล่าวในต้อนท้ายว่า ปัจจัยที่ช่วยทำให้ธุรกิจร้านอาหารประสบความสำเร็จประกอบไปด้วย รสชาติ ทำเล การบริการ รวมทั้งการคำนึงถึงสิ่งที่สามารถตอบสนองพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และความความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป พร้อมกับควรสร้างจุดขายให้เกิดความน่าสนใจให้กับร้านอาหาร เช่น การมีบริการส่งถึงบ้านหรือเดลิเวอรี่เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดการซื้อ ซึ่งจะช่วยสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันธนาคารฯ มียอดสินเชื่อแฟรนไชส์คงค้าง 2,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากสิ้นปี 2559 สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนทำธุรกิจกับแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ การบริหารงานมีมาตรฐานจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เพราะลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์หรือเคยใช้บริการมาแล้ว จึงสามารถทำรายได้และกำไรได้เร็ว