คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ Compact Primo Brake

พฤหัส ๑๖ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๕:๔๔
บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด โดย คุณเกษม อิสระพิทักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทฯ ที่ได้ทำยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท ในปี 2559 ว่า จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยี บุคลากร และการตลาดควบคู่กันอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ผลิตผ้าเบรกที่ดูแลความปลอดภัยของคนไทยมากว่า 40 ปี และคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2565 โดยมีปัจจัยบวกมาจากความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ใช้รถ และความสามารถในการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งความพร้อมในการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับตลาด OE (Original Equipment) ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ Compact Primo Brake ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทที่จะเปิดตัวสินค้าที่เข้าใจและตอบสนองถึงความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มพรีเมี่ยมที่ให้ความสำคัญในความปลอดภัยและตอบสนองการเบรกอย่างดีเยี่ยม และยังคงไว้ซึ่งสุนทรียภาพในการขับขี่ โดยการออกแบบให้ผ้าเบรกมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ทำลายผิวจานเบรก ซึ่งเป็นต้นเหตุของเสียงดังในการเบรกและฝุ่นดำเกาะล้อ ผ่านการทดสอบทั้งในห้องปฏิบัติการและการขับขี่จริง ภายใต้การควบคุมของศูนย์พัฒนาและทดสอบเบรกของบริษัทฯ ที่มีเครื่องมือการทดสอบที่ทันสมัยระดับโลก และเป็นศูนย์แห่งเดียวในภูมิภาค ASEAN ซึ่งจัดตั้งเมื่อปี 2551 ด้วยการลงทุนสะสมกว่า 200 ล้านบาท และมีทีมวิศวกรประสบการณ์สูงที่ได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ผ้าเบรกของ Compact ยังได้รับมาตรฐานการรับรองจากยุโรปใน UN-ECE R90 ซึ่งเป็นมาตรฐานผ้าเบรกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก

นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกาที่กำหนดให้ผ้าเบรกต้องมีการจำกัดส่วนผสมของทองแดง (Low Copper and Copper Free) หลังจากศึกษาพบว่ามีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกฎหมายที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ.2021 และจะเป็นมาตรฐานในอนาคตของผ้าเบรกทั่วโลกจากอิทธิพลของกฎหมายดังกล่าวที่มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นผู้กำหนดเทคโนโลยียานยนต์และตลาดยานยนต์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ล่าสุด วงการยานยนต์ทั่วโลกยังเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่กระจายของฝุ่นจากการเบรก (Brake Emission) โดยมีแนวโน้มที่จะออกกฎหมายควบคุมในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการพิจารณาออกแบบ Compact Primo Brake ให้ถนอมจากเบรกและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้อัตราการสึกหรอของผ้าเบรกและจานเบรกต่ำ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการแพร่กระจายของฝุ่นจากการเบรก

ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ Compact Primo Brake ถือได้ว่าเป็นผ้าเบรกที่มีเทคโนโลยีสำหรับอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัทฯ ที่จะขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพทั้งในอเมริกาและยุโรป โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งการใช้รถใช้ถนนและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทฯ ยังได้คำนึงถึงการพัฒนาศูนย์บริการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบเบรก เพื่อพัฒนาบริการของเราและส่งมอบความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคแบบครบวงจร ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการสร้างศูนย์บริการ Compact Premium Service, Compact Service และ Diamond Service ด้วยการจัดอบรมช่างที่เน้นการพัฒนามาตรฐานการบำรุงรักษาระบบเบรกให้แก่ศูนย์บริการ อีกทั้งให้ความรู้เรื่องเบรกที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ซึ่งการพัฒนาด้านดังกล่าวยังเป็นการเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของผู้บริโภคโดยตรง เพื่อการพัฒนาสินค้าอย่างเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานเบรกของทุกๆ กลุ่มลูกค้ารองรับการพัฒนาผ้าเบรกให้สอดคล้องกับการใช้งานที่หลากหลาย

ขณะที่ คุณพีระ อิสระพิทักษ์กุล ผู้จัดการฝ่ายขายในประเทศอาวุโส บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด กล่าวว่า จากที่เราได้ดูแลบริโภคอย่างใกล้ชิดผ่านทางศูนย์บริการ Compact Premium Service, Compact Service และ Diamond Service เพื่อให้รับรู้และเข้าใจความคาดหวังของผู้บริโภคในการใช้งานเบรกและได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าเบรก Compact Primo Brake มาเติมเต็มกลุ่มสินค้าผ้าเบรกในตลาดระดับพรีเมี่ยมของบริษัทฯ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในความปลอดภัยและการตอบสนองการเบรกอย่างดีเยี่ยม และยังคงสุนทรียภาพของการขับขี่ โดยไม่มีเสียงเบรกและฝุ่นเบรกรบกวน ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับศูนย์บริการดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมจะเดินหน้าเรื่องการตลาดและการประชาสัมพันธ์

แผนการตลาดของ Compact Primo Brake นั้น จะเน้นสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภคให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เบรกที่ดีและมีคุณภาพ ตลอดจนเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันผ่านช่องทาง Online ควบคู่ไปกับการทำตลาดแบบ Below the Line ซึ่งทางบริษัทได้จัดทำเป็นแผนระยะยาวเพื่อผลักดันสินค้าให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

และด้วยกลไกการพัฒนาสินค้าควบคู่กับการบริการและการวิเคราะห์ตลาดแบบครบวงจร เรามีแผนที่พัฒนาและเปิดตัวสินค้าอีกหลายตัวในปี 2561 ในรถหลายลักษณะการใช้งาน อาทิ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ผ้าเบรกสำหรับรถตู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันพบว่าพฤติกรรมการขับขี่ได้ปรับเปลี่ยนไปจากที่ได้ออกสินค้าดังกล่าวไปเมื่อปี 2555 และประสบความสำเร็จอย่างมากในขณะนั้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเปิดตัวและออกสู่ตลาดในไตรมาส 3 ของปี 2561 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาผ้าเบรกสำหรับรถกระบะบรรทุกหนักที่ขับขี่ด้วยความเร็ว และขึ้น-ลงทางลาดชันที่ต้องการประสิทธิภาพการเบรก ตลอดจนอายุการใช้งานที่ยาวนาน

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งในส่วนของร้านค้า ร้านอะไหล่ รวมถึงศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานทั่วประเทศ โดยบริษัทมีศูนย์ Compact Premium Service, Compact Service และ Diamond Service คอยให้บริการลูกค้าทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร GRIP เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้เปลี่ยนผ้าเบรกที่มีคุณภาพจากศูนย์บริการที่มีความรู้ความชำนาญ

ด้านการประชาสัมพันธ์สินค้า Compact Brake ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นนั้น ในปี 2561 จะเน้นด้าน Online เป็นหลัก เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคมีการใช้ Smart Phone เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ควบคู่ไปกับการสนับสนุน Motor Sport ในรายการ Superclub Supercompact กิจกรรมประลองความเร็วแบบถูกกฎหมายของคาร์คลับที่นอกเหนือจากจะช่วยสร้างเสริมทักษะการขับขี่แล้ว ยังช่วยพัฒนาฝีมือและสร้างโอกาสสู่การเป็นนักแข่งมืออาชีพต่อไปในอนาคต ตลอดจนเป็นพื้นที่ให้เหล่าบรรดาคาร์คลับได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ระหว่างกัน ซึ่งในปี 2560 เหล่าคาร์คลับได้ให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นอย่างมาก

ด้าน คุณมีชัย ศรีวิบูลย์ ผู้อำนวยการด้านเทคนิค บริษัท คอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (1994) จำกัด กล่าวถึงการดำเนินงานวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิตของบริษัท ว่า ที่ผ่านมาถูกขับเคลื่อนด้วยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุและการทดสอบ ภายใต้การก่อตั้งศูนย์พัฒนาและทดสอบเบรก (Brake Development and Testing Center) ในปี 2551 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาผ้าเบรกที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ASEAN ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท และความร่วมมือทางเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญของประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ รวมถึงความร่วมมือและสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการที่บริษัทฯ ได้ส่งตัวแทนเพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการและนำเสนอผลงานทางวิชาการอย่างต่อเนื่องในงานสัมมนาด้านเบรกทั่วโลก อาทิ งาน SEA Brake Colloquium ประเทศสหรัฐอเมริกา, Euro Brake ของยุโรป และ ASIA Brake ในเอเซีย ซึ่งบริษัทฯ ถือเป็นผู้ผลักดันในเกิดงานดังกล่าว โดยเป็นงานสัมมนาวิชาการด้านเทคนิคเกี่ยวกับเบรก เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเบรกในภูมิภาคเอเซียด้วยผู้เชี่ยวชาญในวงการ ซึ่งในปีหน้าได้กำหนดจัดงาน ASIA Brake 2018 ในระหว่างวันที่ 4 - 8 กุมภาพันธ์ 2561 ที่กรุงเทพฯ และจากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้บริษัทฯ ทราบถึงแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเบรกของโลก ส่งผลให้สามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างทันท่วงที

และจากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการผลิตผ้าเบรกที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและพนักงาน ตลอดจนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตผ้าเบรกไร้ใยหิน NAO (Non Asbestos Organic) และได้รับรางวัลนวัตกรรมมากมายจากหลายหน่วยงาน ประกอบกับปัจจุบันกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ขณะที่ผู้บริโภคเองก็มีความตื่นตัวในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางบริษัทจึงค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานผ้าเบรกในประเทศไทย Compact Primo Brake ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากทาง Compact Brakes ภายใต้เทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตที่สะอาด Clean Drive Formulation Design ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของสูตรผ้าเบรกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบ Anti-Noise & Anti-Dust friction material formulation สูตรการผลิตดิสก์เบรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดเสียงและฝุ่นดำติดล้อ ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่มุ่งเน้นความสวยงามและความสะอาดของล้อจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ควบคู่ไปกับ Excellent Rotor Care เทคโนโลยีที่ช่วยให้จานดิสก์เบรกมีการอายุการใช้งานที่ยาวนานด้วยคุณสมบัติการถ่ายเทฟิล์มจากเนื้อผ้าเบรกเคลือบไปยังผิวหน้าจานดิสก์เบรกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยคงความเรียบ ไม่ทำให้เกิดรอยบนหน้าจานดิสก์เบรก และเกิดการสึกหรอที่ต่ำเมื่อเทียบกับผ้าเบรกทั่วไป

และด้วยเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะ Compact Primo Brake ได้นำเอาเทคโนโลยีแผ่นชิมพรีเมี่ยมจากประเทศสวีเดน หรือ Multilayer Anti-Squeal Shim Technology มาติดตั้งเข้ากับผลิตภัณฑ์ดิสก์เบรกทุกรุ่น เพื่อให้เป็นส่วนสำคัญในการดูดซับเสียงและแรงสั่นสะเทือนในขณะที่เหยียบเบรก โดยแผ่นชิมดังกล่าวนี้ประกอบไปด้วยยางเคลือบแผ่นเหล็กคุณภาพสูง โดยชั้นบนจะเป็นยางสีส้มเอกลักษณ์เฉพาะของ Compact Primo Brake และชั้นล่างเป็นยางสีดำที่มีความทนทานและยืดหยุ่นต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูงด้วยชั้นกาวชนิดพิเศษ ซึ่งในขณะที่แตะเบรกผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงความนุ่มและเงียบมากกว่าที่เคยสัมผัส

นอกเหนือจากนวัตกรรมที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีสีขาวดังที่กล่าวมาแล้วนั้น Compact Primo Brake ยังถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในสภาวะการใช้งานที่มีความร้อนสูงหรือการเบรกกะทันหันในขณะที่รถเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงการขับขี่ขึ้นลงเขาที่ต้องมีการเหยียบเบรกบ่อยๆ ด้วย Y Groove Technology เทคนิคการผ่าร่องผิวหน้าผ้าดิสก์เบรกให้เป็นรูปตัว Y พร้อมกันนี้เทคนิคดังกล่าวยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายฝุ่นและระบายน้ำไปในตัว และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของการใช้งานได้นำเอากระบวนการ Thermal Scorched ซึ่งเป็นการปรับผิวหน้าผ้าเบรกด้วยความร้อนในอุณหภูมิที่สูงถึง 600°C ทำให้ดิสก์เบรกพร้อมใช้งานโดยที่ไม่ต้องทำการ Run-in ในระยะ 200 กิโลเมตรแรก ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์การขับขี่ในทุกช่วงอุณหภูมิและทุกช่วงระยะเวลาของการใช้งาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version