THMUI สุดฮอต ขายไอพีโอเกลี้ยง 97.07 ล้านหุ้น พร้อมเทรดใน mai 23 พ.ย. นี้

ศุกร์ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๗:๑๐
หุ้นไอพีโอ THMUI กระแสตอบรับล้น ปิดจองไอพีโอ 97.07 ล้านหุ้น หลังเสนอขายวันที่ 15 - 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้าน FA มือฉมัง ""รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์"" บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และในฐานะแกนนำการเสนอขาย ชี้ชัด THMUI ปัจจัยพื้นฐานแกร่ง การกำหนดราคาไอพีโอ 2.55 บาท/หุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม พร้อมเติบโตรับอุตสาหกรรมในประเทศที่ขยายตัว ""ทชากร ลีลาประชากุล"" แม่ทัพใหญ่ THMUI เผยนำเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 247.53 ลบ. ส่วนใหญ่นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ เพิ่มสินค้าและบริการ รองรับความต้องการลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมเดินหน้าเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai 23 พ.ย. นี้

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 97.07 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 15 - 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าหุ้นของ THMUI ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันแรก เชื่อว่าเป็นผลจากนักลงทุนเข้าใจในธุรกิจ และมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้ว ว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นและใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มการเติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถเพิ่มสินค้าและทีมบริการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ารายเดิม และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ขณะที่การกำหนดราคา 2.55 บาท เป็นระดับราคาที่เหมาะสม จากความปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่ดี มีอนาคต และความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 40% จึงมั่นใจว่า THMUI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเข้าทำการซื้อขายวันแรกได้อย่างประทับใจ

""ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ THMUI ในครั้งนี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจและสร้างความคึกคักตั้งแต่เปิดจองวันแรก สะท้อนความเชื่อมั่นที่ได้รับจากนักลงทุน จนทำให้หุ้นไอพีโอของบริษัท 97.07 ล้านหุ้นขายหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน และด้วยโอกาสในการเติบโตหลังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายธุรกิจ รับอานิงสงส์จากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ของภาครัฐบาลและเอกชน ทั้ง แผนงานก่อสร้าง แผนการลงทุนตามแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และเฟส 4 เป็นต้น ทำให้อุปสงค์ลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วที่มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงโอกาสในการขยายสินค้าไลน์ใหม่ๆ เข้าไปเพิ่มเติมได้อีก จึงมองว่า THMUI จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามอง "" นายรัฐชัย กล่าว

นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจที่หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนหมดทั้งจำนวน เชื่อเป็นเพราะการกำหนดราคาไอพีโอที่ 2.55 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดย THMUI เป็นผู้จำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วที่มีคุณภาพสูง จากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของบริษัทฯ ว่าจะสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งาน และบริการอย่างครบวงจร มีความความปลอดภัย รวมถึงลดการสูญเสียในระหว่างการทำงานได้

เงินที่ได้จากการระดมทุน ราว 247.53 ล้านบาท จะนำไปใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 147.53 ล้านบาท ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ 10 ล้านบาท ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 2561 โครงการก่อสร้างโกดังสินค้า 30 ล้านบาท ระหว่างปี 2561 – 2562 และ จ่ายคืนตั๋ว BE 60 ล้านบาท ภายในปี 2560 โดยเชื่อมั่นว่าหลังจากบริษัทฯ เพิ่มสินค้าและทีมบริการ รวมทั้ง ติดตั้งเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่แล้วเสร็จ จะเป็นโอกาสให้บริษัทฯ เพิ่มยอดขายได้แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น

สำหรับ ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ที่เติบโตอย่างน่าประทับใจ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 310.61 ล้านบาท เติบโต 25.33% จากงวดเดียวกันของปี 2559 อยู่ที่ 247.83 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 120.82 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 100.46 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 24.69 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน 5.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเท่ากับร้อยละ 376.97 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 38.90 อัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.90 เนื่องจาก บริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการไปยังกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้นตามกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยลวดสลิงคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเหล็ก เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ 30.57% กลุ่มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 17.24% กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง 9.47% และกลุ่มท่าเรือ 6.58% ของรายได้จากการขายทั้งหมด

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 356.74 ล้านบาทตามลำดับ กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 146.17 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 18.92 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 40.97 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 5.29

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๔ แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๑๓:๕๐ GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๑๓:๕๗ KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๐๒ เม.ย. แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ