กลุ่มไทคอนโชว์ผลงาน 9 เดือน กำไร 247 ล้านบาท

ศุกร์ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๗:๒๒
กลุ่มไทคอน ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 247 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าโอนทรัพย์สินไปสู่กองทรัสต์ TREIT ให้แล้วเสร็จในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 แย้มประกาศโรดแมปกลยุทธ์องค์กรต้นปีหน้า พร้อมตั้งเป้าปั้นกลุ่มไทคอนเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในระดับอาเซียน

นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแบบครบวงจรในอาเซียน รายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทไทคอนในรอบ 9 เดือน ของปี 2560 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 288 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิจำนวน 247 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้หลักมาจากรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 1,043 ล้านบาท โดยมีพื้นที่เช่าโรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และพื้นที่เช่าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18

โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 บริษัทมียอดลูกค้าเช่าใหม่พื้นที่ของโรงงานและคลังสินค้ามากกว่า 220,000 ตารางเมตร ปัจจุบัน ไทคอนมีพื้นที่ภายใต้การบริการจัดการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 2.7 ล้านตารางเมตร ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่น และส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโมเดิร์นเทรด ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากการที่ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศเป้าหมายในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจากนโยบายภาครัฐในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่เอื้อสิทธิประโยชน์มากมายให้กับผู้ประกอบการในหลายๆ อุตสาหกรรม จึงได้รับการตอบรับจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก และเป็นผลให้ความต้องการโรงงานและคลังสินค้าภายในประเทศสูงขึ้นตามลำดับ

นายวีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "กลุ่มไทคอนมีความพร้อมในการรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในพื้นที่อีอีซี ซึ่งครอบคลุมทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง โดยกลุ่มไทคอนมีข้อได้เปรียบในด้านแลนด์แบงค์ในพื้นที่อีอีซีและบริเวณโดยรอบ ซึ่งมีครอบครองอยู่มากกว่า 3,000 ไร่ ยังไม่รวมที่ดินในกลุ่มพันธมิตรซึ่งพร้อมนำมาพัฒนาเป็นโรงงานและคลังสินค้าสำหรับรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้านี้อีกด้วย""

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังสินค้าแบบ Built to Suit เพิ่มเติม ขนาดพื้นที่รวมกว่า 29,000 ตารางเมตร คาดว่าจะส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงขยายการลงทุนเพิ่มเติมที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยล่าสุดมีบริษัทชั้นนำด้านอุปโภครายรายใหญ่ระดับโลกได้ลงนามพัฒนาคลังสินค้าแบบ Built to Suit 2 แห่ง รวมพื้นที่เช่ากว่า21,000 ตารางเมตร เป็นที่เรียบร้อย โดยได้เริ่มเข้าดำเนินการในคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งแล้ว ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทคอนได้ตั้งเป้าหมายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มซีแอลเอ็มวี โดยไทคอนอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเวียดนามสำหรับการลงทุนขยายโรงงานและคลังสินค้า

ด้านความคืบหน้าของการควบรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กอง ไปยังกองทรัสต์ TREIT นั้น นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ""ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 4 กองได้มีมติอนุมัติให้ไทคอน และทีแมน ทำการควบรวมกองทุนทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ โดยในช่วงสุดท้ายของปี 2560 ไทคอนจึงอยู่ระหว่างการดำเนินการโอนทรัพย์สินของกองทุนรวม TFUND, TLOGIS และTGROWTH ให้กับกอง TREIT ซึ่งมีจำนวนทรัพย์สินกว่า 400 รายการ ที่จะต้องดำเนินการโอนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 ภายหลังควบรวมแล้วเสร็จ ไทคอนตั้งเป้าขายทรัพย์สินเพิ่มเติมเข้าสู่กองทรัสต์ TREIT มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท และทำให้กองทรัสต์ TREIT มีมูลค่าทรัพย์สินขนาดใหญ่ถึง 36,000 ล้านบาท""

กลุ่มไทคอน เชื่อมั่นว่า กลยุทธ์ในการควบรวมกองทุนเข้าด้วยกันนี้ จะทำให้กลุ่มไทคอนมีเครื่องมือทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ประกอบกับ ทีแมนซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการการลงทุนและธุรกิจได้เป็นอย่างดี จึงเอื้อต่อการขยายการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต โดยภายในปี 2561 ที่จะถึงนี้ บริษัทฯ จะมีการประกาศแผนกลยุทธ์องค์กรใหม่เพื่อนำมาปรับใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในการผลักดันองค์กรไปสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในระดับอาเซียนได้ในอนาคตอันใกล้นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ