สถาบันร่วมดังกล่าวได้รับการจัดตั้งขึ้น ณ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง วิทยาเขตนานาชาติไห่หนิง ซึ่งในฐานะการศึกษาข้ามชาติรูปแบบใหม่ ทางสถาบันจะจัดการศึกษาด้านวิศวกรรมระดับโลกโดยใช้หลักสูตรและทรัพยากรจากมหาวิทยาลัย IUIC และ ZJU อย่างเท่าเทียมกัน
สถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวหางโจวซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีบนพื้นที่ประมาณ 80 เฮกเตอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องทดลองวิทยาศาสตร์ข้อมูลประยุกต์ร่วมระหว่าง ZJU และมหาวิทยาลัย Imperial รวมถึงสถาบัน ZJU-UoE (มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ) ด้วย ทั้งนี้ จากแผนพัฒนาพื้นที่อ่าวหางโจวให้เป็นแหล่งขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเศรษฐกิจ หรือเป็นพื้นที่อ่านซานฟรานซิสโกเวอร์ชั่นจีนของภาครัฐบาล ส่งผลให้วิทยาเขตใหม่ของ ZJU แห่งนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ศาสตราจารย์ซ่ง หย่งหัว รองประธานฝ่ายบริหารของ ZJU และคณบดีผู้ก่อตั้งวิทยาเขตนานาชาติ เปิดเผยว่า "การก่อสร้างวิทยาเขตนานาชาติแห่งใหม่ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการขับเคลื่อน ZJU สู่สากล ซึ่งหลังจากที่ได้ฝึกฝนด้านการจัดการสถาบันนานาชาติมาเป็นเวลาหลายปี ZJU พัฒนา "กลยุทธ์ 4S ระดับโลก" ขึ้นในปี 2556 ซึ่งมีความโดดเด่นและเปี่ยมประสิทธิภาพ อันประกอบด้วย "กลยุทธ์" "ความแข็งแกร่ง" "ความยั่งยืน" และ "มุ่งเน้นด้านบริการ" ทั้งนี้ "กลยุทธ์ 4S ระดับโลก" จะเป็นกรอบทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อผลักดัน ZJU สู่สากล ในขณะเดียวกันก็มีการนำสิ่งดี ๆ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกมาปรับใช้ภายใต้บรรทัดฐานใหม่ของจีนด้วย
ZJU เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของจีนที่กำลังก้าวสู่ความเป็นสากล โดยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ การนำกลยุทธ์ระดับชาติต่าง ๆ อย่าง "การยกระดับประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และการศึกษา" และ "การพัฒนาประเทศโดยใช้บุคลากรที่มีความสามารถ" มาใช้ ควบคู่ไปกับการมุ่งสู่เวทีแห่งการศึกษาขั้นสูงระดับโลกผ่านการสนับสนุนครั้งล่าสุดของรัฐบาลในโครงการ Double First-Class Initiative ทำให้การศึกษาระดับสูงของจีนมีรูปแบบการเปิดกว้างและการพัฒนารูปแบบใหม่เกิดขึ้น
อนึ่ง จีนเป็นประเทศที่ผลิตนักเรียนจำนวนมากเพื่อไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ขณะที่ชาวต่างชาติกลับต้องการเข้ามาศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ประเทศจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนำไปสู่การก้าวสู่ความเป็นสากลในแง่ของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลระดับสูงขึ้น โดยในปี 2559 จำนวนนักเรียนจีนที่ไปศึกษาต่อในต่างประเทศนั้นอยู่ที่ 545,000 ราย ครอบคลุมกว่า 180 ประเทศและภูมิภาค ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ผลิตนักเรียนเพื่อไปศึกษาต่อในต่างประเทศมากที่สุด และในปีเดียวกันนี้ มีนักเรียนต่างชาติเข้ามาศึกษาในประเทศกว่า 443,000 คน ทำให้จีนกลายเป็นจุดหมายอันดับแรกในเอเชีย ยิ่งไปกว่านั้น จีนยังแสดงให้เห็นถึงศักยาภาพในการดึงดูดคนที่มีความสามารถจากประเทศต่าง ๆ ด้วยจำนวนนักเรียนจีนที่หวนกลับคืนสู่ประเทศหลังจบการศึกษาในต่างแดนสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492
ณ สิ้นสุดปี 2559 มีนักเรียนจีนกลับคืนสู่ประเทศกว่า 2.65 ล้านคน
สำหรับ ZJU นั้น ก่อตั้งขึ้นในปี 2440 โดยเป็นหนึ่งในสถานศึกษาขั้นสูงที่ทันสมัยแห่งแรก ๆ ที่ก่อตั้งโดยจีนเอง หลังจากการพัฒนามาตลอดระยะเวลา 120 ปี ZJU ได้กลายเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอันดับต้นของจีน จากข้อมูลของ Essential Science Indicator (ESI) ในเดือนพ.ย. 2560 ระบุว่า ZJU อยู่ในอันดับท็อป 1% ใน 18 สาขาวิชา และอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลกใน 5 สาขาวิชา นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในจีน
จีนกำลังเติมเต็มทรัพยากรด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อนับถึงปีที่แล้ว จีนสถาปนาความร่วมมือด้านการศึกษาและโครงการแลกเปลี่ยนกับประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ รวม 188 แห่ง แบ่งเป็นความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษากับองค์กรระหว่างประเทศ 46 แห่งและการลงนามความร่วมมือด้านการศึกษาในระดับต่าง ๆ กับอีก 47 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสถาบันการศึกษาและโครงการที่ดำเนินการร่วมกันในต่างประเทศซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีนอีก 2,480 รายการ
เมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ZJU ได้จัดตั้งรูปแบบความร่วมมือที่แตกต่างกันกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษากว่า 170 แห่งใน 34 ประเทศจาก 5 ทวีป โดยในปีที่แล้ว นักศึกษาจาก ZJU กว่า 4,800 ชีวิตได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีนักศึกษานานาชาติกว่า 3,400 ชีวิตเข้าเรียนที่วิทยาเขตต่าง ๆ ของ ZJU ด้วย
ศาสตราจารย์ Krein แสดงทรรศนะเกี่ยวกับความเป็นสากลของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศจีนว่า มนุษยชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาจากความเป็นโลกาภิวัตน์ ทว่าในขณะเดียวกัน โลกาภิวัฒน์ก็ได้มอบโอกาสด้านความร่วมมือในแง่ของการศึกษาระดับสูงในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งบรรดานักศึกษาจะมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านการวิจัยและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถอันเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ รังสรรค์อนาคต และสามารถตอบสนองความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงความก้าวหน้าทางสังคมได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ผ่านความร่วมมือระหว่างวัฒนธรรมข้ามพรมแดน
ที่มา: มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (ZJU)
ลิงค์ภาพประกอบ: http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=301157
AsiaNet 71115