นายยืนยง ทรงศิริเดช หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารการปฏิบัติการและประสิทธิภาพธุรกิจสาขา ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทีเอ็มบีได้ยึดแนวคิด Make THE Difference เปลี่ยน...เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น เป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้เต็มที่ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงภายใต้แนวทาง "Need-Based" กับ "Simple & Easy" ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ใช้ง่ายและสะดวกจึงทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ผ่านช่องทางการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Transactional banking และ Digital banking ได้ ซึ่งธนาคารก็จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ในแบบลูกค้าต้องการต่อไป โดยได้เล็งเห็นว่าช่องทางสาขาคือช่องทางในการให้บริการลูกค้าที่มีความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทีเอ็มบีจึงได้พัฒนาสาขารูปแบบใหม่ สำหรับลูกค้า ในยุคดิจิทัล " TMB Digital Branch Banking Experience" เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการบริการในสาขาเพื่อไปสู่ธนาคารรูปแบบใหม่รายแรกของไทย นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะนำไปสู่ก้าวต่อๆ ไปในการให้บริการ ดิจิทัลแบงก์กิ้ง
สำหรับ TMB Digital Branch Banking Experience นี้ เป็นการนำเทคโนโลยีการออกแบบช่องทางการบริการมาผสานเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ให้ความเป็นดิจิทัลเข้าไปช่วยให้กระบวนการธุรกรรมของลูกค้ามีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ลดระยะเวลารอคอย เกิดประสบการณ์ใหม่ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยการบริการที่ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งานดังกล่าว มีอยู่ 4 ส่วน ประกอบด้วย 1. การนัดหมายล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์(New Queue Platform) 2. บริการข้อมูลผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ ผ่าน อี-โบรชัวร์ (E-Brochure) 3. เทคโนโลยี VDO Conference เพื่อให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก TMB Advisory 4. เจ้าหน้าที่ Navigator พร้อมอุปกรณ์ที่จะให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับการใช้บริการทุกธุรกรรม
นายยืนยงกล่าวต่อไปว่า การออกแบบภายในสาขา จะเน้นการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจการเปลี่ยนผ่านการให้บริการนี้ โดยในระยะแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ก็จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจทีละขั้นตอนเพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งจากการทดลองใช้งานมาช่วงหนึ่ง พบว่าลูกค้าชอบบริการที่เราได้นำมาใช้กับสาขารูปแบบใหม่นี้จริงๆ จึงนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่สาขาเป็นแบบบริการตัวเองเพิ่มมากขึ้น
รูปแบบของสาขาใหม่นี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ ของการให้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งของทีเอ็มบี โดยยึดหลักให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย มีความสะดวกสบายและรวดเร็ว นำความต้องการพื้นฐานมาสู่ประโยชน์ของลูกค้าและสร้างรูปแบบบริการตัวเองที่จะช่วยให้ลูกค้าติดต่อกับธนาคารได้ง่ายขึ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการธนาคาร แต่ต้องการทำธุรกรรมทางการเงิน ทีเอ็มบีจึงมุ่งเน้นการเสนอบริการที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานก่อนเป็นอันดับแรก
ประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่านสาขานี้จะให้อำนาจกับลูกค้าในการเลือกอะไร ที่ไหน และอย่างไร ตามความสะดวกของแต่ละคน ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตัดขาดการสื่อสารกับคนด้วยกัน หากลูกค้าพอใจจะขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่โดยตรงมากกว่าผ่านระบบการบริการแบบครบวงจร ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสาขาจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้เข้าถึงช่องทางบริการทางดิจิทัล และจะเป็นปัจจัยสำคัญให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากการเปลี่ยนผ่านมากกว่ามองว่าเป็นอุปสรรค
"เรามั่นใจเหลือเกินว่า สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากทีเอ็มบีและทำให้สามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ในแบบที่ต้องการ คือ การทำธุรกรรมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ในเวลาที่ลูกค้าต้องการและช่องทางที่ลูกค้าสะดวก ใช้ระบบดิจิทัลที่ง่าย สะดวกมากขึ้น และมีประสบการณ์ที่ดีตลอดเวลาที่ใช้บริการกับทีเอ็มบี" นายยืนยง กล่าว
ทั้งนี้ สาขารูปแบบใหม่จะนำร่องให้บริการใน 15 สาขา ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ประกอบด้วย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, สยามพารากอน, ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต, เดอะมอลล์ บางแค, ซีคอนสแควร์, เซ็นทรัลพระรามเก้า, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, แฟชั่นไอแลนด์, เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวิลด์, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัล มหาชัย และทีเอ็มบี สำนักงานใหญ่