ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้วันสุดท้ายที่หน่วยลงทุน CPNRF จะทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนของกองทุนรวม CPNRF เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน CPNRF กับหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ CPNREIT ในอัตรา 1 หน่วยลงทุนต่อ 1 หน่วยทรัสต์ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 โดยแจ้งวันหยุดทำการซื้อขาย (SP) ของหน่วยลงทุน CPNRF ตั้งแต่วันที่ 27พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป จนกว่าหน่วยลงทุน CPNRF จะสิ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และในวันเดียวกันนั้นหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ CPNREIT จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก
"เมื่อการแปลงสภาพและลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กองทรัสต์ CPNREIT เป็นกองทรัสต์ประเภทรีเทลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 43,000 ล้านบาท ที่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพการเติบโตสูงที่อยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดี 5 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่และพัทยา ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการค้าที่สำคัญภายใต้การบริหารงานโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงในกลุ่มบริษัท CPN อีกทั้งด้วยความคล่องตัวในการจัดโครงสร้างทางการเงินที่มีประสิทธิภาพภายใต้โครงสร้างของ CPNREIT จะทำให้กองทรัสต์ CPNREIT มีความน่าสนใจต่อนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ โดยที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด จะทำหน้าที่ทรัสตี
นอกจากนี้ กองทรัสต์ฯ ยังมีแนวนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวทางที่กองทุนรวม CPNRF ได้ตั้งไว้และถือปฏิบัติมาตลอดคือ ขยายการลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพดีอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทรัสต์มีการเติบโตและมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่องในระยะยาวอีกด้วย" นายสมิทธ์กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กองทุนรวม CPNRF มีการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา 4 ทำเล คือ พระราม 2 พระราม 3 ปิ่นเกล้า และ เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยที่ผ่านมาได้มีจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 12.3940 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 23 กุมภาพันธ์ 2549) โดยมีราคาปิดตลาด ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ที่ 22.00 บาทต่อหน่วย