ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2560 บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 388.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 9.63% โดยมีรายได้การรักษาพยาบาลประมาณ 340.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็น 20.08% และรายได้จากการบริการประมาณ 37.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 29.87% และมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 10.41% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 46.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.35% จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 43.64 ล้านบาท
"ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง high season ของธุรกิจโรงพยาบาล เพราะมีการระบาดของโรคที่มากับช่วงหน้าฝนที่มาเร็วในปีนี้ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ และมือเท้าปาก และจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มคนไข้ประกันสังคม และบริษัทย่อย AMARC ทำกำไรมากขึ้น" ดร.อังกูร กล่าว
ส่วนผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 1,102.01ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.52 ล้านบาท คิดเป็น 7.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,025.49 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 127.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 123.65 ล้านบาท โดยมีรายได้การรักษาพยาบาลประมาณ 961.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 5.27% มาจากรายได้จากผู้ป่วยชำระเงินประมาณ 513.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 8.91% ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 ศูนย์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการส่วนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 16.56% เป็นรายได้โตกว่า 39.27% และจากประกันสังคมมีรายได้ประมาณ 449.36 ล้านบาท คิดเป็น 1.45% และมีรายได้จากการบริการประมาณ 105.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 20.68% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแนวโน้มผลงานในช่วงไตรมาส 4/2560 คาดว่าผลดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2560 ที่ผ่าน เนื่องจากเป็นช่วง High season ที่ผู้ใช้บริการจะเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นจากโรคที่มากับฤดูหนาวซึ่งในปีนี้ฤดูหนาวมาค่อนข้างเร็วต่อเนื่องจากฤดูฝน ทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคตามฤดูกาลมาใช้บริการสูง ประกอบกับ LPH ปัจจุบันมีผู้ประกันตนจำนวน 1.61 แสนคน จะเริ่มรับรู้อานิสงส์บวกจากการขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวของโครงการประกันสังคมจากเดิมปีละ 1,460 บาทต่อคน เป็น 1,500 บาทต่อคน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการมุ่งเน้นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และรายได้จากการบริการที่มีรายได้สูงขึ้นตามผลดำเนินการที่ผ่านมา โดยคาดว่าปี 2560 นี้ รายได้รวมจะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนการก่อสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และโครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คาดว่าจะก่อสร้างได้กลางปี 2561 มูลค่าลงทุนรวม 800 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนโรงพยาบาล 600 ล้านบาท โครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 200 ล้านบาท
ดร.กล่าวอังกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการขายที่ดินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 126 ประกอบด้วยที่ดินเนื้อที่รวม 11-0-1 ไร่ รวมลานกีฬา มูลค่ารวมประมาณ 191.61 ล้านบาท โดยคำนวณมูลค่าที่ดินราคา 43,500 บาทต่อตารางวา จำหน่ายให้แก่ บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด (LPHD) พื้นที่ 5-0-46 ไร่ พร้อมลานกีฬากลางราคา 170,000 บาท รวมเป็นเงิน 89,171,000 บาท กำหนดโอนกรรมสิทธิ์ไม่เกิน 28 ธ.ค.2560 และจำหน่ายให้กับบริษัท ลาดพร้าวการศึกษา จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโรงเรียนสองภาษาลาดพร้าว (LBS) พื้นที่ 5-3-55 ไร่ รวมเป็นเงิน 102,422,500 บาท โดยเงินที่ได้จากการขายที่ดินครั้งนี้จะสำรองไว้เพื่อใช้ในโครงการขยายงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดให้กับผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของบริษัทฯจากผลประกอบการงวด 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 30 ก.ย.2560 ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญทั้งหมด 750 ล้านหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงิน 75 ล้านบาท วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 23 พ.ย. 2560 กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลวันที่ 8 ธันวาคม 2560