นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI เปิดเผยว่า พอใจกับการการซื้อขายหุ้น THMUI วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดตลาดที่ราคา 2.98 บาท เพิ่มขึ้น 16.86% จากราคาจอง 2.55 บาทต่อหุ้น มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 792 ล้านบาท โดย THMUI ในฐานะผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วคุณภาพสูง ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ ไบรดอน (Bridon), คิสไวร์ (Kiswire), อูช่า (Usha) และครอสบี้ (Crosby) เป็นต้น รวมทั้ง บริการหลังการขาย และมีใบรับรองสินค้าจากผู้ผลิต เพื่อให้เกิดความมั่นใจในสินค้าที่ส่งมอบ ซึ่งที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเลียมและน้ำมันรายใหญ่ กลุ่มปิโตรเคมี ก่อสร้าง ฯลฯ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น อาทิ กลุ่มท่าเรือ กลุ่มโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ จะช่วยลดข้อจำกัดเรื่องเงินทุน ทำให้สต็อกสินค้าได้มากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการซื้อของลูกค้า โดยที่ผ่านมาเสียโอกาสได้รายได้ปีละประมาณหลักร้อยล้านบาท เนื่องจากไม่มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเงินระดมทุน IPO สามารถเก็บสต็อกสินค้าได้มากขึ้น ประกอบกับปีหน้าจะมีการลงทุนของภาครัฐ-เอกชน ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 เติบโตต่อเนื่องราว 20% จากปีก่อน รักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 40 %
สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จำนวน 247.53 ล้านบาท บริษัทจะนำไปชำระคืนตั๋วแลกเงิน 60 ล้านบาท ซื้อเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน มูลค่า 10 ล้านบาท ก่อสร้างโกดังสินค้า 30 ล้านบาท และที่เหลือ 147.53 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ผลประกอบการบริษัทฯ งวด 9 เดือนแรกของปี 2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.69 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 5.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 376.97 และเติบโตกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 18.92 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 120.82 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 100.46 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 38.90 อัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.90 โดยปัจจัยสำคัญเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างดีเยี่ยม โดยรายได้จากการขายและบริการงวด 9 เดือนปี 2560 อยู่ที่ 310.61 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 25.33 จากงวดเดียวกันของปี 2559 อยู่ที่ 247.83 ล้านบาท
"ถือว่าพอใจกับการก้าวเป็นส่วนหนึ่งของตลาด เอ็ม เอ ไอ ซึ่งเชื่อจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการระดมทุนช่วยลดข้อจำกัดทางการเงินที่สามารถเพิ่มสต็อกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ และทันท่วงที รวดเร็ว สินค้าคุณภาพปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าเลือก THMUI มาโดยตลอด ที่ผ่านมาเสียโอกาสประมาณปีละประมาณหลักร้อยล้านบาท ในการที่ไม่สามารถรับออเดอร์ลูกค้าได้ แต่จากเราได้เงิน IPO เข้ามาทำให้เราสามารถเก็บสต็อกสินค้าได้มากขึ้น ทำให้เรามีรายได้จากการเสียโอกาสกลับมา และประเมินว่าปีหน้าจะมีโอกาสจำนวนมากจากการลงทุนของภาครัฐ-เอกชน ทำให้มั่นใจรายได้ปีหน้าเติบโต และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 40 % " ทชากร กล่าว
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า THMUI มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และเป็นบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องของความเชื่อมั่นที่ได้รับจากคู่ค้า และพันธมิตร ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ คือบริษัทชั้นนำของประเทศที่ไว้วางใจใช้บริการ อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ลดความเสี่ยงในการพึ่งพิงลูกค้ารายใดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง หรือเฉลี่ยที่ระดับ 40% และมีอัตรากำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่า แผนการรุกตลาดลวดสลิง อุปกรณ์ยกหิ้ว และสินค้าอื่นๆ ของบริษัทที่มีรวมกันกว่า 3,000 รายการ ด้วยการบริหารจัดการที่ดี ความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และการบริหารสต็อกที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัท จะผลักดันให้ THMUI เติบโต และพร้อมที่จะรับงานโครงการต่างๆ ได้อีกมากมายในอนาคต และคาดว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ และเห็นโอกาสจากการลงทุนหุ้น THMUI อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
โดย THMUI เปิดการซื้อขายวันแรกที่ราคา 2.98 บาท เพิ่มขึ้น 16.86% จากราคาไอพีโอหุ้นละ 2.55 บาท ปรับขึ้นไปสูงสุดของวันนี้ที่ 3.04 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ราคา 2.42 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 792 ล้านบาท