ปฏิบัติการถาดหลุมสีเขียว ส่งเสริมอาหารกลางวันโรงเรียนให้ยั่งยืน ปลอดภัย ใช้วัตถุดิบปลอดสารเคมี

จันทร์ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๕:๕๑
มูลนิธิการศึกษาไทย และกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกันจัดกิจกรรม We Grow ตอนปฏิบัติการถาดหลุมสีเขียว เพื่อเปิดตัวโครงการอาหารกลางวันยั่งยืน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมระบบอาหารกลางวันของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาให้มีความปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนเหมาะสมกับวัย ใช้วัตถุดิบจากการทำเกษตรกรรมเชิงนิเวศที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการอาหารกลางวันยั่งยืน เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ, มูลนิธิการศึกษาไทย และกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มต้นโครงการด้วยการจัดอบรมครูและบุคลากรของโรงเรียนเรื่อง ผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพ ในพื้นที่ดำเนินการ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ สกลนคร พังงา และปทุมธานี

นายมารุต จาติเกตุ เลขาธิการมูลนิธิการศึกษาไทย กล่าวถึงความสำคัญของการจัดอบรมบุคลากรในโรงเรียนว่า

"จากการศึกษาผลกระทบจากสารกำจัดศัตรูพืชต่อนักเรียนและชุมชนในพื้นที่เสี่ยง โดยการตรวจพืชผักและผลไม้ที่ใช้สำหรับอาหารกลางวันในโรงเรียน และตรวจเลือดและปัสสาวะของนักเรียนและครูในโรงเรียนประถมศึกษา พบว่าผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และวัตถุดิบเครื่องปรุงที่โรงเรียนซื้อในตลาดมีสารตกค้างในปริมาณสูง และเด็กนักเรียนและครูมีสารกำจัดศัตรูพืชในเลือดและปัสสาวะเช่นกัน นอกจากนี้ เด็กนักเรียนและชุมชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับสารกำจัดศัตรูพืชจากการฉีดพ่นมากกว่า 200 วันต่อปี

ผลลัพท์ข้างต้นทำให้เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยยังขาดความตระหนักในเรื่องผลกระทบจากสารกำจัดศัตรูพืชต่อเด็กอยู่มาก รวมถึงขาดมาตรการและกฏระเบียบในการปกป้องนักเรียนและชุมชนจากผลกระทบเหล่านี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และหันหน้ามาร่วมแก้ไขปัญหานี้ไปด้วยกัน เด็กนักเรียนทุกคนทั้งในเมืองและชนบทจำเป็นต้องได้กินอาหารกลางวันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของพวกเขาจริง ๆ และปลอดภัยจากสารพิษเหล่านี้" นายมารุต จาติเกตุ เลขาธิการมูลนิธิการศึกษาไทย กล่าว

การอบรมครูมีทั้งหมดสามหลักสูตรคือ การจัดการสารเคมี นิเวศเกษตร และโภชนาการ โดยเนื้อหาครอบคลุมถึงสถานการณ์สารเคมีทางการเกษตรและการวิเคราะห์สถานการณ์อาหารในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม การศึกษาเรื่องสารเคมีและการดูดซึมและสถานการณ์การผลิตอาหารของพืชและสัตว์ รวมถึงการทดสอบสารตกค้างในอาหารสดและลงพื้นที่สำรวจชุมชนด้วย

นายวัชรพล แดงสุภา ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านอาหารและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า

"อาหารกลางวันของเด็ก ๆ จะต้องมาจากวัตถุดิบที่ปลอดภัย หากโรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนรับประทานผักอินทรีย์มากขึ้นไม่เพียงจะส่งผลดีต่อสุขภาพของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเกื้อกูลกันระหว่างชุมชน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย"

ปัจจุบัน รัฐบาลจัดสรรงบประมาณค่าอาหารกลางวันของนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษาให้แก่โรงเรียนในภาครัฐ เป็นจำนวน 20 บาทต่อคนต่อมื้อ โดยโรงเรียนมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารกลางวันให้กับนักเรียน

"คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกโรงเรียนจะผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้แก่นักเรียนของตัวเองโดยการปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคภายในโรงเรียน เพราะแต่ละพื้นที่ย่อมมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน แต่ทุกโรงเรียนสามารถจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่ปลอดภัยให้แก่นักเรียนโดยการเชื่อมโยงโรงเรียนกับผู้ปกครองและชุมชนท้องถิ่นที่ทำเกษตรกรรมเชิงนิเวศได้ อย่างไรก็ตาม ความต้องการผลผลิตที่ปลอดภัยของโรงเรียนนั้นคือสิ่งสำคัญต่อการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน เพราะจะเป็นแรงจูงใจสำคัญให้เกษตรกรหันมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำการเกษตรจากเดิมที่เน้นความสวยงามของผลผลิตเป็นหลัก ไปสู่การผลิตเชิงนิเวศที่ใส่ใจต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ตัวเกษตรกรเองก็จะไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการใช่สารเคมีเกษตรที่รุนแรง ส่วนลูกหลานของพวกเขาก็จะได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ สมควรจะได้รับ" นายวัชรพล กล่าวเสริม

การพัฒนาระบบอาหารกลางวันของนักเรียนให้มีความปลอดภัยนั้น หลายโรงเรียนในโครงการ ได้มีการพัฒนาพื้นที่ว่างรอบโรงเรียนให้กลายเป็นแปลงปลูกผักอินทรีย์ที่เด็ก ๆ และคุณครูมีส่วนร่วมตลอดทั้งกระบวนการ สิ่งนี้ทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่าสิ่งที่พวกเขารับประทานนั้นปลอดภัยจริง ๆ และช่วยให้โรงเรียนสามารถพึ่งพาตัวเองในการผลิตอาหารกลางวัน นี่ไม่ใช่เพียงแค่การปลูกผัก แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเยาวชนว่าการเกษตรเชิงนิเวศเป็นสิ่งที่ทำได้จริง และเป็นเรื่องที่แม้แต่เด็ก ๆ ก็ทำได้

ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้ก็คือ จะทำอย่างไรให้เด็กหันมารับประทานผักให้มากขึ้น ทางกรีนพีซจึงได้เชิญร้านอาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำอย่าง ปฐม ออร์แกนิค ลิฟวิ่ง และต้นกล้า ฟ้าใส มาแข่งกันออกแบบเมนูอาหารกลางวันจากผักพื้นบ้านให้ดูน่าสนใจ อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อให้เด็ก ๆ มีทัศนคิดที่ดีในการรับประทานผัก และทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ในกรอบของงบประมาณอาหารกลางวันด้วย

นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวถึงบทบาทและเป้าหมายของของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกับการพัฒนานโยบายอาหารกลางวันในโรงเรียนว่า "สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องรับผิดชอบนักเรียนจำนวนหลักล้านคน และนักเรียนทุกคนต้องได้กินอาหารกลางวันจากงบประมาณที่ทางรัฐบาลจัดสรรให้ 20 บาทต่อคนในเวลา 200 วัน โดยเราจะจ่ายผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ก็ยังคงมีนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการคือ ผอม เตี้ย และอ้วนอยู่ ดังนั้น สพฐ.จึงต้องมีบทบาทในการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย เช่น เราจะให้ความรู้ทางด้านโภชนาการเรื่องอาหารปลอดภัย ปลอดสารพิษ ให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง ส่งเสริมกิจกรรมทางการเกษตร การสหกรณ์ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติจนเกิดทักษะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ และส่งเสริมสนับสนุนให้โรงเรียนประสานความร่วมมือกับชุมชนผลิตวัตถุดิบปลอดสารพิษให้กับโครงการอาหารกลางวัน"

ดร.วิชัย แสงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราส่งเสริมและพยายามเสริมสร้างจิตสำนึกให้ทุกโรงเรียนเลือกซื้ออาหารที่ปราศจากสารพิษ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อได้เด็กนักเรียนและครูได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพ"

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการพูดคุยในหัวข้อ "ทำได้ไหม? อาหารกลางวันที่ปลอดภัยต่อเด็ก ๆ และโลก" พร้อมการแข่งขันทำอาหารระหว่างร้านปฐม ออร์แกนิค ลิฟวิ่ง กับร้านอาหารมังสวิรัติเพื่อสุขภาพอย่างต้นกล้า ฟ้าใส เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าอาหารที่ปรุงจากผักปลอดสารพิษนั้นอร่อยและไม่แพงอย่างที่คิด พร้อมเวิร์คช็อป "การทำหลอดผักบุ้งด้วยตัวเอง" จากร้านปฐม ออร์แกนิค ลิฟวิ่ง นอกจากนี้ ยังมีการจัดอบรมคุณครูจาก 12 โรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี ควบคู่ไปกับการเปิดตัวโครงการ โดยการอบรมจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 20 - พุธที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงเรียนวัดขุมแก้ว อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ ก.พ. รฟท. จัดรถไฟส่งผู้ชุมนุมขบวนคนจนเมืองเพื่อสิทธิที่อยู่อาศัย เครือข่ายสลัม 4 ภาค กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
๒๑ ก.พ. BCPG เผยผลการดำเนินงานปี 2567 กำไรสุทธิกว่า 1,800 ล้านบาท เติบโต 65% จากปีก่อน พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง
๒๑ ก.พ. เกรท นำทีมศิษย์เก่า ฟอส-แบงค์ ฉลองครบรอบ 40 ปี ม.รังสิต เปิดตัว คริส หอวัง กับบทบาท ครูผู้ฮีลใจนักศึกษา แห่งสถาบัน
๒๑ ก.พ. ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 8.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567
๒๑ ก.พ. GULF เคาะแล้ว! อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 4-10 ปี ที่ 3.00 - 3.55% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป 27-28 ก.พ. และ 3 มี.ค.68 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10
๒๑ ก.พ. Selena Gomez, benny blanco, Gracie Abrams ส่งเพลงสนุกๆ โดนใจ Gen-Z Call Me When You Break Up การรวมตัวของอเวนเจอร์วงการเพลงป็อปที่ทุกคนรอคอย!
๒๑ ก.พ. MBK Care อาสาทำดี ปันน้ำใจสู่สังคม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ ปีที่ 7 ส่งมอบความสุขเพื่อผู้พิการทางสายตา พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค
๒๑ ก.พ. บางจากฯ ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวของกลุ่มบริษัทบางจาก
๒๑ ก.พ. สวยทุกลุค ชมพู่ - อารยา ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของสาว GUESS ในแคมเปญคอลเลกชัน Spring Summer 2025 สีสันแห่งฤดูกาลใหม่
๒๑ ก.พ. วช. เปิดศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร ต้นแบบการยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ