โพลล์ IOD ชี้บริษัทไทยชั้นนำส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนในการกำหนดกลยุทธ์

จันทร์ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๐๑๗ ๑๗:๑๑
ดร. บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประธานกรรมการบริษัทว่า 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าคณะกรรมการของบริษัทได้นำประเด็นเรื่องความยั่งยืนมาพิจารณาในการกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กรด้วย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าภาคธุรกิจเอกชนไทยมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนของธุรกิจ

จากการสำรวจความคิดเห็นประธานกรรมการบริษัทที่มาร่วมงาน Chairman Dinner ของ IOD เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถาม 49 คน พบว่ามีเพียง 2% เท่านั้นที่ยังไม่มีแผนดำเนินการใดๆ เลยเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน ในขณะที่อีก 16% ระบุว่ามีแผนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

"ความยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญที่ธุรกิจทุกวันนี้จะมองข้ามไม่ได้ การทำธุรกิจที่แสวงหากำไรสูงสุดอย่างเดียวอาจล้าสมัยไปแล้วสำหรับแนวคิดทางธุรกิจในปัจจุบัน ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่บริษัทชั้นนำของไทยส่วนใหญ่ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว" ดร. บัณฑิต กล่าว

ผู้ตอบแบบสอบถาม 77.6% ระบุว่าประเด็นที่คณะกรรมการบริษัทจะใช้เวลาพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการมากขึ้นในปีหน้าคือเรื่องกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่ 61.2% บอกว่าจะให้เวลามากขึ้นกับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนอีก 55.1% บอกว่าจะคุยเรื่องการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น ที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือ 22% ระบุว่าจะใช้เวลาหารือเรื่องการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพิ่มขึ้น และ 18.4% บอกว่าจะให้เวลากับการพิจารณาเรื่องแนวทางการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น

นอกจากเรื่องที่ส่งผลโดยตรงกับผลประกอบการของบริษัทอย่างกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และการบริหารความเสี่ยงแล้ว การที่คณะกรรมการของบริษัทส่วนใหญ่จะใช้เวลามากขึ้นในการพิจารณาเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะที่อีกหลายบริษัทก็จะให้เวลามากขึ้นกับการพิจารณาเรื่องการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าธุรกิจชั้นนำของไทยส่วนใหญ่ให้น้ำหนักกับเรื่องของการสร้างการเติบโตระยะยาวมากกว่าการแสวงหาผลตอบแทนระยะสั้น ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ มากขึ้น พร้อมที่จะพัฒนาองค์กรของตัวเองให้สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายธุรกิจสะอาดที่ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน

สำหรับมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ผู้ตอบแบบสอบถาม 59.2% มองว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย และ 18.4% มองว่าจะดีขึ้นมาก ในขณะที่ 14.3% มองว่าจะทรงตัว โดยมีเพียง 6.1% ที่มองว่าจะแย่ลงเล็กน้อย และแค่ 2.0% มองว่าจะแย่ลงมาก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย