นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่าบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 จะเติบโตที่ระดับ 65,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่า จะอยู่ในระดับ 60,000 ล้านบาท เป็นไปตามราคาก๊าซปิโตรเลียม (LPG) ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น อยู่ที่ประมาณ 577.50 ดอลลาร์ต่อตัน และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนปริมาณการขาย LPG คาดว่าจะเติบโต 6-7 % จากปี 2560 ที่ราว 3.2 ล้านตัน โดยมีปริมาณขายต่างประเทศและในประเทศอยู่ในสัดส่วน 65 % และ 35 % ตามลำดับ
"แผนการนำเข้าแอลพีจี ในปี 2561 คาดว่าจะมีปริมาณใกล้เคียงกับปี 2560 โดยปัจจุบันยอดขายแอลพีจีในประเทศไทยของบริษัทอยู่ที่ 100,000 ตันต่อเดือน แบ่งเป็นยอดขายในภาคอุตสาหกรรม 20% , ภาคครัวเรือน 60% และภาคขนส่ง 20% ปัจจุบันสยามแก๊สฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 25% " นางจินตณา กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2560 บริษัทประเมินว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และผลจากราคาขายก๊าซ LPG ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซมากขึ้น สำหรับผลประกอบการปี 2560 บริษัทฯประเมินยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 3.2 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ราว 3.05 ล้านตัน โดยปัจจุบันราคาก๊าซตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 578 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นจากราคาก๊าซเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา 87.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน
"ปริมาณขาย LPG ที่ตั้งเป้าไว้ระดับ 3.2 ล้านตันในปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเป็นยอดขายในประเทศจีนกว่า 1.2 ล้านตัน ยอดขายในประเทศไทย 1.1 ล้านตัน และจากการขาย Offshore Trading 0.70 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนจากยอดขายทั้งหมดที่ร้อยละ 36, 35 และ 23 ตามลำดับ โดยปัจจุบันสัดส่วนการขาย LPG ของบริษัทมาจากการขายในต่างประเทศ 65% และการขายในประเทศ 35% และจากปริมาณขาย LPG และราคาก๊าซแอลพีจีที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้รายได้ในปี 2560 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 6 หมื่นล้านบาท" นางจินตณา กล่าว