นักวิชาการด้านสังคมผู้สูงวัย นายกสมาคมบ้านปันรัก
โลกปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งต่างๆ ที่เพียรก่อร่างพัฒนามาอาจกลายเป็นความสูญเปล่าเพียงชั่วแค่ข้ามคืน ในระยะหลังจำเป็นต้องมีคำคุณศัพท์ขยายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคำ ซึ่งเราคุ้นหูกันดี นั่นคือคำว่า "ความยั่งยืน" ที่มักใช้ร่วมกับคำว่า "พัฒนา" จนกลายเป็นโจทย์บนหลายเวทีว่า...
ทำอย่างไรถึงจะเกิดการ "พัฒนาอย่างยั่งยืน ?"
ในเวทีสัมมนาวิชาการของคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในหัวข้อ "การสร้างนวัตกรรมสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาชุมชนสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน" นั้นผมในฐานะนักวิชาการด้านสังคมผู้สูงวัย และนายกสมาคมบ้านปันรัก ได้มองความ "ยั่งยืน" ในอีกมุมคือ สิ่งใดที่ทำให้การพัฒนาสังคมนั้น "ไม่ยั่งยืน" ซึ่งเมื่อตีโจทย์ในมุมนี้ จะทำให้เห็น 2 ประเด็น คือ
1.ความไม่ยั่งยืนของประเทศไทย (หรือประเทศใด ๆ ก็ตาม) ล้วนมาจากการรุกรานจากประเทศภายนอกนั่นเอง โดยมีเหตุจากการรุกรานด้วยหวังผลประโยชน์จากทรัพยากร หรือจากระบบตลาด เป็นต้น
2.เมื่อเห็นผู้ที่จะมาทำลายความยั่งยืนแล้ว ต่อไปก็ต้องมาหาว่า แล้วเขาจะใช้อะไรมายึดครองประเทศเรา นั่นคือการหา "อาวุธ" ที่ประเทศภายนอกจะใช้ในการโจมตีสังคมของเรานั่นเอง
อาวุธยุคนี้ไม่เหมือนยุคดึกดำบรรพ์ ที่มีเพียงแรงกายของหัวหน้าเผ่า หรืออาจจะหินอีกสักก้อนก็พอแล้ว และไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบยุคเกษตรกรรม ที่ใช้ปืน ผา หน้าไม้ อีกทั้งไม่ได้เด่นชัดว่าคือเงินทุนเหมือนในยุคอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่ซ่อนรูปและทำให้ซับซ้อนมากขึ้น ก็คือ "ความรู้"
ดังนั้น คำถามจากโจทย์ของเวทีก็คือ แล้วจะหานวัตกรรมใดมาสร้างให้คนมีความรู้ ?
คำตอบ ย่อมไม่ใช่การใช้อำนาจสั่งให้คนไปศึกษาเล่าเรียน หรือไปบังคับกันตรงๆ แต่เป็นการใช้ "อำนาจที่ซ่อนรูป" ทำให้คนเกิดความใฝ่ที่จะอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อมาผนวกเข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปจากสังคมอุตสาหกรรมมาสู่สังคมโซเชียล คนสื่อสารกันด้วยสัญลักษณ์ หรือที่เรียกว่า "สังคมเชิงสัญลักษณ์" ก็พอจะเห็นภาพว่า นวัตกรรมชิ้นต่อไปที่จะเปลี่ยนโลกก็คือสิ่งที่เรียกว่า "วาทกรรม" (Discourse) หรือ "ผลึกความรู้" ที่จะส่งทั้งความจริง ความรู้ และกรอบที่ต้องการออกไปสู่ผู้รับสาร
วาทกรรมนี้ เป็นเสมือนเครื่องมือชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ผู้มีอำนาจใช้ปกครองคนในยุคข้อมูลข่าวสาร เป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพยิ่งกว่านวัตกรรมที่พึ่งอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ที่มนุษย์เคยผลิตออกมา "วาทกรรม" นี้เองจะนำความจริงที่ปรากฏ มาผูกกับความรู้ในมุมมองที่ต้องการ แล้วบูรณาการเข้ากับอำนาจที่จะใช้เพื่อการไปสู่เป้าหมายนั้น ซึ่งผู้โดนอาวุธนี้ จะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกปกครองอยู่ นี่คือสิ่งที่โลกกำลังดำเนินไป ซึ่งเราอาจนำมาประยุกต์เพื่อตอบโจทย์บนเวทีนี้ว่า นวัตกรรมที่พึงประสงค์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ ก็คือ "การใช้ความคิดสร้างสรรค์รังสรรค์ 'วาทกรรม' ที่จะทำให้คนมีแรงบันดาลใจใฝ่เรียนรู้นั่นเอง!"