การประกาศอันดับเครดิตครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ TOLC ได้ทำการออกหุ้นกู้และฟิทช์ได้รับเอกสารฉบับสมบูรณ์ซึ่งมีข้อมูลตรงตามที่ได้รับมาก่อนหน้า
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันพิจารณาจากการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนการค้ำประกันจาก ORIX Corporation ประเทศญี่ปุ่น (ORIX: 'A-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งถือหุ้น TOLC ในสัดส่วน 97% ทั้งนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating: LT FC IDR) ของ ORIX ที่ 'A-' อยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local-Currency Issuer Default Rating: LT LC IDR) ของประเทศไทยที่ 'BBB+' และสอดคล้องกับอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)' ซึ่งเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC สามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตหัวข้อ "Fitch Rates Thai ORIX Leasing's Guaranteed Bonds 'AAA(tha)(EXP)' " ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2560 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของ ORIX สามารถดูได้จากรายงานเครดิตของบริษัทลงวันที่ 30 สิงหาคม 2560 และจากประกาศอันดับเครดิตหัวข้อ "Fitch Affirms ORIX's Ratings at 'A-', Outlook Stable" ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2560
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ TOLC ที่ 'AAA(tha)' เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม
อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้อาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ORIX ปรับลดลงต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการปรับลดอันดับเครดิตของ ORIX หรือการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากทั้ง ORIX และประเทศไทยต่างมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ