คุณพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัดเปิดเผยว่า "บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากผลผลิตของเกษตรกรยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสานต่อแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงต้องการแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกร พระองค์ทรงก่อตั้งโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปขึ้นให้ใกล้กับพื้นที่แหล่งเพาะปลูก เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่ายในราคายุติธรรม ให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัจจุบันมีโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ใช้แปรรูปผลิตผลจากเกษตรกร ๔ แห่ง ได้แก่
· โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
· โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๒ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
· โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๓ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร
· โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๔ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ (อยู่ในระหว่างปรับปรุง)
ซึ่งทั้ง ๔ แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งเพาะปลูกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าตราดอยคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๓ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เป็นโรงงานแปรรูปผลผลิตมะเขือเทศแห่งแรกในลุ่มแม่น้ำโขง มีพื้นที่ส่งเสริมการปลูกมะเขือเทศโดยรอบซึ่งครอบคลุมจังหวัดสกลนคร และจังหวัดใกล้เคียงได้แก่ นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และอุดรธานี รวม ๒๓,๐๐๐ ไร่ จนมีคำกล่าวเรียกพื้นที่นี้ว่า "เส้นทางสายมะเขือเทศ" (Tomato Belt) ซึ่งในแต่ละฤดูกาล บริษัทฯ ได้ส่งเสริมและรับซื้อผลผลิตมะเขือเทศเข้าโรงงานประมาณ ๑๘,๐๐๐ – ๒๐,๐๐๐ ตัน/ปี จากการดำเนินงานดังกล่าวถือได้ว่า น้ำมะเขือเทศดอยคำ เป็นผลิตภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจ และทำให้ดอยคำเป็นอันดับ ๑ในตลาดน้ำมะเขือเทศจวบจนปีปัจจุบัน"
"สำหรับภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมและมีเดียมของไทย ในไตรมาสที่ ๓ ของปี ๒๕๖๐ มีมูลค่าประมาณ ๔,๓๐๐ ล้านบาท ซึ่งแบรนด์"ดอยคำ" มีสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ประมาณ ๒๐% โดยเฉพาะ น้ำมะเขือเทศดอยคำมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง ๙๐% ครองอันดับ ๑ ในตลาดน้ำมะเขือเทศ โดยการทำตลาดในปีนี้จะเน้นสร้างให้ตราสินค้า "ดอยคำ" เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นในฐานะตราสินค้าน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากผลผลิตมะเขือเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าดอยคำจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีความโดดเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันไป
ปัจจุบัน ดอยคำ มีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสูตร และผลิตจากมะเขือเทศที่ส่งเสริมและรับซื้อ ๕ รายการ ดังนี้
๑. น้ำมะเขือเทศ ๙๙% ต้นตำรับน้ำมะเขือเทศ รสชาติเข้มข้น หนึ่งเดียวในประเทศไทย มากด้วยคุณประโยชน์เต็มร้อยจากธรรมชาติ การันตีด้วยรางวัล Superior Taste Award ปี ๒๐๑๖ จากสถาบันเพื่อรับรองรสชาติอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ (iTQi) ประเทศเบลเยียม
๒. น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม ๙๘% ม็อกเทล ดอยคำเข้าใจถึงปัญหาของผู้บริโภคบางท่านที่ดื่มน้ำมะเขือเทศ ๑๐๐% ไม่ได้ จึงปรับสูตรใหม่ด้วยการผสมน้ำผลไม้รวม ได้แก่ เสาวรส สตรอว์เบอร์รี และส้ม เพื่อให้ดื่มง่าย แต่ยังคงเต็มไปด้วยคุณประโยชน์จากน้ำมะเขือเทศ
๓. น้ำมะเขือเทศ ๙๙% สูตรโซเดียมต่ำ ปริมาณโซเดียมต่ำ ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพที่ต้องการจำกัดปริมาณโซเดียม แต่ยังคงได้รับคุณประโยชน์จากน้ำมะเขือเทศ
๔. น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผักรวม ๙๙% - เวอร์จินแมรี ผลิตภัณฑ์ใหม่ปี ๒๕๖๐ มิติใหม่ของการดื่มน้ำมะเขือเทศ โดดเด่นด้วยรสชาติที่จัดจ้าน จาก ขิง พริก พริกไทย และเซเลอรี (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) ช่วยเติมความสดชื่นอย่างรวดเร็ว คลายความเหนื่อยล้า เหมาะสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า สำหรับผลิตภัณฑ์รายการนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนจะเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ในปี ๒๕๖๑ เป็น น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผักรวม ๙๙% สูตรจัดจ้าน เพื่อให้สอดคล้องกับส่วนผสมปรุงรสที่มีความเป็นไทยและมีรสจัดจ้าน และเป็นที่รู้จักของคนไทย
๕. มะเขือเทศทาขนมปัง เอกลักษณ์ของการผสานรสชาติเผ็ดหวานลงตัวแบบไม่เติมน้ำตาล เต็มรสชาติด้วยเนื้อมะเขือเทศกว่า ๗๐%พร้อมคุณประโยชน์จากไลโคปีนเทียบเท่ามะเขือเทศสด ๑๐ ผล
นอกจากการส่งเสริม รับซื้อ และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องแล้ว ทางบริษัทฯ ยังคงต่อยอดการดำเนินงานในด้านอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งจากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคอีสานที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้จัดทำสินค้าแพ็คพิเศษน้ำมะเขือเทศ ๙๙% สูตรโซเดียมต่ำ ๑ แถม ๑ เพื่อกระตุ้นยอดการบริโภคให้เพิ่มขึ้น และหวังให้เป็นอีกทางที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรได้มากขึ้นในปีต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่วางจำหน่ายสินค้า ณ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน ๑๑,๐๐๐ สาขา มีกำหนดวางจำหน่าย วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ นี้
ดอยคำ ขอเชิญทุกท่านร่วมสนับสนุนคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี ด้วยมะเขือเทศจากชุมชน สู่ผลิตผลเพื่อสังคม