ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ในฐานะสาวสองพันปีที่กาลเวลาไม่เคยทำให้พลังชีวิตของเธอลดน้อยลง หนึ่งในเซเลบที่ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวครั้งนี้ แบ่งปันมุมมองถึงการเตรียมตัวเพื่อวัยเกษียณสุดสตรองว่า "อย่างพี่นี่ไม่น่าจะพึ่งลูก เพราะชอบใช้ชีวิตด้วยตัวเอง หากเกษียณแล้วคงจะหาที่ๆได้เจอคนที่เหมือนกัน ทานกาแฟพูดคุยกันได้ และที่สำคัญต้องมีต้นไม้ เพราะพี่ชอบปลูกต้นไม้ สำหรับพี่แม้ว่าพี่ยังคงสนุกกับการใช้ชีวิตด้วยตัวเองอยู่มากในทุกวันนี้ แต่พี่ก็คิดเสมอว่าชีวิตเกษียณเป็นเรื่องที่ควรวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ หากเรารู้จักวางแผนชีวิตวัยเกษียณในขณะที่เรายังแข็งแรงและมีพลังอยู่อย่างตอนนี้ ก็เชื่อว่าเราสามารถกำหนดชีวิตสูงวัยในอนาคตให้ดำเนินไปอย่างมีพลังได้ด้วยเช่นกัน เพราะเราจะรู้แนวทางชัดเจนว่าเราควรคิดอย่างไร ทำอย่างไร และอยู่ในที่แบบไหนตั้งแต่ตอนนี้ แน่นอนว่าหากมีที่ที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีพลังทั้งในวัยก่อนเกษียณและวัยเกษียณได้ จะต้องแปลกใหม่และน่าสนใจมากเลยทีเดียว"
ส่วน ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินรุ่นเก๋าในฐานะตัวแทนของคนวัยเกษียณที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีพลังที่งานนี้มาพร้อมกันทั้งครอบครั ขอพูดถึงแนวทางการใช้ชีวิตอย่างมีพลังในวัยเกษียณว่า "สำหรับผมไม่มีคำว่าเกษียณ เพราะทุกวันนี้ผมยังสนุกกับการทำงาน สนุกกับการใช้ชีวิต ยังเล่นละคร ร้องเพลง พบปะเพื่อนฝูงบ่อยครั้งต่อสัปดาห์ และที่สำคัญผมยังสนุกกับการได้เรียน ผมเรียนจบปริญญาเอกแล้วครับ และยังคงเรียนร้องเพลงเพื่อพัฒนาทักษะการร้องให้ทันกับนักร้องรุ่นใหม่ๆที่มีเทคนิคน่าสนใจ ผมว่าสิ่งเหล่านี้อาจหมายถึงพลังของการใช้ชีวิตในวัยนี้ของผม สำหรับคนในวัยอย่างผม ผมคิดว่ามี 2 เรื่องที่สำคัญคือ สุขภาพกับสังคม วัยนี้เราต้องอยู่ใกล้หมอ ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวที่จะช่วยให้เราดูแลตัวเองได้ดี พึ่งพาตัวเองได้มากที่สุด สำหรับเรื่องสังคมรวมไปถึงที่อยู่ อันนี้สำคัญมาก คนสูงวัยต้องไม่คิดว่าตัวเองอายุมาก ต้องมีความกระตือรือร้นอยากจะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เจอคนอื่นๆ บ้าง ทำกิจกรรมด้วยกัน เช่น ออกกำลังกาย คุยกับคนอื่นที่มีความสนใจเหมือนๆ กัน จะทำให้เราแข็งแรงทั้งกาย ใจ อารมณ์ สมองจะทำงานอยู่เรื่อยๆ ไม่ซึมเศร้า ผมว่าการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ช่วยทำให้รู้สึกว่าชีวิตยังมีพลังเสมอแม้จะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับคนวัยเกษียณ"
ด้านภรรยาสุดที่รักอย่าง เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์ กล่าวเสริมว่า "แม้ว่าร่างกายของอาจะไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนเพราะอาการป่วยอย่างที่ทราบกัน แต่เชื่อไหมว่าใจของอาไม่เคยเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตเลย เราป่วยก็รักษาดูแลให้ดี ขณะที่ใจก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิต อาการก็กลับดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะหันมามองดูรอบข้างแล้ว เรารู้รู้สึกว่าเราโชคดีมากแค่ไหนในวัยนี้ เรายังมีครอบครัวที่น่ารัก แม้ว่าอาจจะต้องช้าลงเพราะร่างกายที่เสื่อมถอยแต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว ได้ออกไปพบปะเพื่อนสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง พบปะเพื่อนบ้านที่น่ารัก สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้ชีวิตอาไม่เคยเหี่ยวเฉา อาว่าการใช้ชีวิตอย่างมีพลังต้องเริ่มต้นจากใจเราเองนี่แหละเป็นสำคัญ"
ส่วน อีฟ พุทธธิดา ศิระฉายา ลูกสาวพ่อต้อย-เศรษฐา ในฐานะลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ในวัยเกษียณ มองว่า การเตรียมตัวในการดูแลคนวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญ "สำหรับอีฟแล้วการดูแลคุณพ่อคุณแม่ในวัยนี้ต้องไม่ทำให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป ไม่ห้ามท่านทำในสิ่งที่ท่านเคยทำได้ เพราะวัยนี้ยิ่งห้ามจะยิ่งเกิดแรงต้าน แต่เราจะต่อรองให้พบกันครึ่งทาง เช่น เมื่อก่อนเคยขับรถ ตอนนี้ก็ยังขับได้อยู่ แต่ให้มีคนนั่งไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะสิ่งที่สำคัญของคนวัยนี้คือความเชื่อมั่นในตัวเอง อีฟจะปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ให้ท่านได้อยู่ในสังคม พบปะเพื่อนฝูง ได้ทำสิ่งที่ชอบกับคนวัยเดียวกัน เช่น ไปเที่ยว ท่านอาจจะสนุกตอนไปกับเพื่อนมากกว่าไปกับลูกด้วยซ้ำในบางที สิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกท่านรู้สึกว่ายังมีพลังชีวิต ป้องกันโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัยได้ นอกจากนี้สิ่งที่อีฟคำนึงมากที่สุดคือเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย เพราะในความเป็นจริงเราไม่สามารถดูแลท่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีทางเลือกที่จะทำให้ท่านได้อยู่ในที่ๆเราสามารถวางใจถึงสองสิ่งนี้ได้ มีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เชิญชวนให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีพลังอีกครั้ง และที่สำคัญไปมาหาสู่สะดวกจะเป็นที่ๆวิเศษมากสำหรับทุกคนในครอบครัว ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และตัวเราที่เป็นลูกด้วยเช่นกัน"
แถมงานนี้ดูเหมือนจะเอาใจคนวัยเกษียณและเตรียมเกษียณกันเต็มที่ เพราะยังจัด Fulfilling Happiness Concert มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับตำนานของเมืองไทย อ๊อด คีรีบูน นนทิยา จิวบางป่า และ เบิร์ดกะฮาร์ท ที่มาร่วมสร้างสีสันขับกล่อมบทเพลงดังที่หลายๆคนคิดถึงเป็นการเติมเต็มค่ำคืนสุดพิเศษนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ภายในงานยังประกาศผลรางวัลจากกิจกรรม Jin Golden Spirit Photo Contest ที่ได้เปิดโอกาสให้บุคคลทางบ้านร่วมส่งภาพถ่ายคนวัยเกษียณที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีพลัง ซึ่งงานนี้รางวัลที่ 1 เป็นของคุณศราพร ฐิตะฐาน ชนะใจกรรมการด้วยภาพของคุณลุงสังสุทธิ์ วีระไวทยะ ขณะแข่งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นไลฟสไลต์สุดรัก ในวัย 71 ปี ยิ่งตอกย้ำแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างมีพลังในวัยเกษียณของโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ได้อย่างชัดเจน โดยได้รับรางวัล โทรศัพท์เคลื่อนที่ Iphone 7 plus 256GB 1 เครื่อง, ทองคำหนัก 1 บาท และแพคเกจบำรุงผิวหน้า Masterpiece มูลค่า 5,000 บาทจำนวน 2 รางวัล สามารถติดตามผลรางวัลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/jinwellbeing
สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์ของการใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีสไตล์ ได้แล้ววันนี้ ได้ที่ เซลส์ แกลอรี่ ภายใต้แนวคิด Life Exploring ณ โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ริมถนนพหลโยธิน - รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลด 400,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2560