สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายเยาวชนโคตรอินดี้ คุณบุรินทร์ทร แซ่ล้อ ผู้อำนวยการเครือข่ายเยาวชนโคตรอินดี้ จัดทำกิจกรรม "เสียงจากคนข้างในกำแพงส่งถึงคนภายนอก" ภายใต้ "โครงการ แรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในการสร้างเสริมสุขภาวะ และการสร้างทักษะชีวิต" ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากนิทรรศการภาพถ่าย ๑๐๐ วัน ร้อยเรื่องเปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ โดยส่งมอบหนังสือผลงานความจงรักภักดีของคนไทยในช่วง ๑๐๐ วันแรก หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้กับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ
ด้วยปัจจุบันสถานการณ์สภาพเรือนจำเมืองไทยมีผู้ต้องราชทัณฑ์มากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยมีอัตราการคุมขังผู้หญิงถือว่าสูงที่สุดในโลก (ข้อมูลจากสหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล FIDH) และสัดส่วนผู้ต้องขังส่วนใหญ่ต้องคำพิพากษาในคดียาเสพติด ผู้ต้องราชทัณฑ์ส่วนใหญ่เคยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการก่อเหตุ จึงขาดความเข้มแข็งด้านจิตใจ ขาดทักษะชีวิตและภูมิคุ้มกันของตนเองที่จะปฏิเสธต่ออบายมุข (ข้อมูลจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี)
เพื่อให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีจิตใจที่เข้มแข็ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีกิจกรรมเพื่อปลุกให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ ได้มีการปรับเปลี่ยนความคิด พฤติกรรม ด้วยการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อที่จะทำให้เขามีโอกาสแสดงศักยภาพและสามารถออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยการใช้ศาสตร์ของพระราชา นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2489 ท่านได้มีพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ภารกิจที่ทรงดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้เป็นอย่างมากในการดำเนินงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม นับเป็นพลังในการที่จะให้ผู้คนได้เรียนรู้และสร้างเสริมสุขภาวะจากต้นแบบของพระองค์ อันจะนำไปสู่การมีภูมิคุ้มกันต่อการมีพฤติกรรมเสี่ยงทางด้านสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และการติดสารเสพติดต่อไป
จากสภาพปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยศาสตร์ของพระราชา ทางโครงการจึงได้จัดกิจกรรมขึ้น เพื่อให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้มีโอกาสเรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสุขภาวะ โดยมีต้นแบบจากพระองค์ อันจะส่งผลให้เกิดภูมิคุ้มกันตนเอง ยกระดับจิตใจของผู้ต้องขังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรม มีอาชีพที่มั่นคงหลังพ้นโทษ สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพและลดอัตราความเสี่ยงด้านก่อคดีซ้ำในอนาคต
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า "สสส. มีภารกิจในการสนับสนุนให้ภาคีทุกภาคส่วนในประเทศไทย "ดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพ" และแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้สารเสพติดทุกชนิด ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักประการหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น โครงการในวันนี้ สสส.และโคตรอินดี้ได้นำเรื่องราวการแสดงความจงรักภักดีของประสกนิกรชาวไทยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรที่แสดงผ่านหนังสือ ๑๐๐ วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมภาพของการแสดงความจงรักภักดีของประชาชนต่อพระองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จากทุกพื้นที่ทุกกลุ่มชนในช่วง ๑๐๐ วันแรกของการสวรรคตของพระองค์ท่านมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ในการเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต โดยทดลองนำร่องกับผู้ต้องขังในเรือนจำมีนบุรีซึ่งพบว่าได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง ต้องขอบคุณ นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และทีมงานช่างภาพคุณภาพที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์หนังสือภาพเล่มนี้ การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์แบบนี้ถือเป็นการดำเนินรอยตามแนวทางที่พระองค์ท่านได้เคยวางรากฐานไว้ และนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ สสส. ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจิตใจ ให้กับประชาชนคนไทย ที่อยู่ในกำแพงแห่งนี้ และขอให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงการมีสุขภาวะที่ดีของตนเอง และสังคมรอบข้างก็จะดีไปควบคู่กัน สสส. ขอสนับสนุน และให้กำลังใจทุกๆ ท่านยืนหยัดการสร้างภูมิคุ้มกันตนเองให้เข้มแข็งต่อไป"
นายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี /ผู้แทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ : กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมด้านการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องให้สังคมภายนอกได้รับทราบถึงบทบาทและภารกิจ ในก้าวย่างที่ ๕ การสร้างการยอมรับให้กับสังคม
ทางด้านนโยบายของกรมราชทัณฑ์ การส่งเสริมและดูแลสุขภาพของผู้ต้องราชทัณฑ์ การสร้างแรงบันดาลใจจากโครงการฯ เป็นการสร้างคุณค่า ให้เกิดกับตัวผู้ต้องขังให้ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขอขอบคุณทางโครงการฯ ที่ได้พิจารณาคัดเลือกเรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็น เรือนจำนำร่อง เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ใช้สื่อดีๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้ต้องขัง เป็นอีกครั้งที่ได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมดีๆ จาก สสส. และ โคตรอินดี้
ผมในฐานะที่เป็นผู้แทนกรมราชทัณฑ์ รับมอบหนังสือที่ทรงคุณค่านี้ ผมขอขอบคุณแทนเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่นๆ ทั่วประเทศในสังกัดกรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศอีกครั้ง ที่มอบความสำคัญของคนข้างในกำแพง
คุณบุรินทร์ทร แซ่ล้อ ผู้อำนวยการเครือข่ายเยาวชนโคตรอินดี้ และผู้จัดทำโครงการฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ของทุกปี ปกติจะเห็นการจัดกิจกรรมสำหรับวันพ่อแห่งชาติของเมืองไทย และปีนี้ผมเป็นลูกคนหนึ่งที่น้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านตลอดเวลา จึงถือโอกาสอันใกล้วันพ่อแห่งชาตินี้ จัดกิจกรรมเพื่อสังคมกลุ่มคนข้างในนี้
มีหลายคนที่ถามผมว่า ทำไมต้องมาจัดในนี้ ผมตอบเลยว่าถ้าเราไม่ทำ ใครจะทำ ยิ่งเมื่อผมได้ดูข่าว อ่านข่าว ได้ทราบถึงจำนวนของผู้กระทำความผิด ที่เพิ่มขึ้นทุกวันๆ มันสะท้อนถึงเรื่องการทำผิดซ้ำๆ ทั้งคนที่ออกไปแล้ว ไม่รู้จะไปไหน สังคมไม่ให้โอกาส ผมเองในฐานะของคนที่เคยเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานให้กับพี่น้องในกำแพงนี้ ผมได้เห็นถึงศักยภาพของทุกคนในนี้ ว่ามีอยู่มากมายมหาศาล เราอยากช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันภายในจิตใจที่เข้มแข็ง โดยมีศาสตร์พระราชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ภายในงานมีการแสดงผลงานจากแรงบันดาลใจหลากหลาย ทั้งภาพวาด กรอบรูปฝังมุก รูปลงรักปิดทอง งานปั้นจากขี้เลื่อย การแสดงอังกะลุง และดนตรีสากล วง "Behind the scene คนหลังกำแพง" จากผู้ต้องราชทัณฑ์ เป็นการโชว์ความสามารถของคนข้างในได้อย่างประทับใจมาก
สำหรับผู้ที่สนใจทั่วไปที่ต้องการได้รับแรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผ่านหนังสือภาพที่ทรงพลังเล่มนี้ สามารถดาวน์โหลดภาพจากหนังสือ ๑๐๐ วัน เปลี่ยนความโทมนัสเป็นพลัง และหนังสืออื่นในโครงการนี้ทุกเล่ม และคลิป VDO ทั้งหมดของผู้ต้องราชทัณฑ์ ได้ที่ www.thaihealth.or.th ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป