ชี้แจงข้อกำหนดเงินกู้ ADB

ศุกร์ ๐๘ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๓๗
นางสาวศิรสา กันต์พิทยา รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเงินกู้ ADB ที่มีข้อกำหนดหลายประการ นอกเหนือจากการคิดอัตราดอกเบี้ย ดังนี้

1. หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2560 มีจำนวน 6,305,654.60 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ในประเทศ จำนวน 6,006,341.35 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.25 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และหนี้ต่างประเทศ จำนวน 299,313.25 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.75 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง โดยเป็นเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ซึ่งเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 7,888.91 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.64 ของยอดหนี้ต่างประเทศคงค้าง

2. ประเทศไทยได้ร่วมมือกับ ADB จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการดำเนินงานของประเทศ (Country Operations Business Plan: COBP) ระยะ 3 ปี ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่เป็นเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการ (Technical Assistance) โดยแผน COBP เป็นกรอบการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่น ไม่ได้มีข้อผูกมัดว่าจะต้องกู้เงินจาก ADB และไม่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด ทั้งนี้ โครงการที่อยู่ในแผน COBP เป็นโครงการที่อยู่ในสาขาต่างๆ ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย และนโยบายรัฐบาล สำหรับโครงการเงินกู้ในแผน COBP ในปี 2561 – 2563 เป็นโครงการในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสาขาการขนส่งมวลชน ไม่มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) สำหรับความช่วยเหลือทางวิชาการที่เป็นการให้ความช่วยเหลือเพื่อศึกษาทางเทคนิคและวิชาการแบบให้เปล่าในปี 2561 – 2563 เป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาบริการทางการเงินอย่างทั่วถึงเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การปรับปรุงท่าอากาศยาน การศึกษาเรื่องการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการปฏิรูปสู่เกษตร 4.0 และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของระบบรถไฟ

3. สำหรับการกู้เงินจากต่างประเทศ โครงการจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการและกู้เงินจากต่างประเทศ โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาต้นทุนและเงื่อนไขการกู้เงินเปรียบเทียบกับแหล่งเงินกู้ในประเทศและแหล่งเงินกู้ต่างประเทศอื่นๆ เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด และหากเป็นเงินกู้จากต่างประเทศ จะพิจารณาเงื่อนไขการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความช่วยเหลือทางวิชาการ และระบบการบริหารจัดการและติดตามประเมินผลโครงการควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องนำส่งร่างสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ก่อนที่จะลงนามในสัญญาเงินกู้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการคลังไม่มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ที่มีเงื่อนไขอันส่งผลให้ประเทศไทยเกิดความเสียเปรียบ และในปี 2560 ยังไม่มีการลงนามในสัญญาเงินกู้กับ ADB เพื่อดำเนินโครงการใด อีกทั้ง ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง (Upper-Middle Income Country) และไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จึงไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศภายใต้ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขพิเศษดังที่กล่าว

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO