“ภาวะเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนจับตามอง การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ โดยดัชนีฯ เดือนธันวาคม 60 ปรับตัวลดลงมาอยู่ในภาวะร้อนแรง”

จันทร์ ๑๘ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๗:๒๐
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนธันวาคม 2560 "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ในภาวะร้อนแรง โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากความเชื่อมั่นจากการตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่มีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในส่วนตัวเลขการส่งออกและ GDP ในภาพรวม และคาดการณ์ว่าประธานนโยบายทางการเงินของสหรัฐจะมีนโยบายปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีความคืบหน้านโยบายปฏิรูปภาษีที่มีการผ่านวุฒิสภาสหรัฐ ทั้งนี้ ปัจจัยความเสี่ยงจากคาบสมุทรเกาหลี นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้าจากการที่เกาหลีเหนือยังคงมีการทดลองอาวุธอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯยังมีการปรับตัวในทิศทางที่แกว่งตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน" โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กุมภาพันธ์ 2561) อยู่ที่ 150.81 อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" (Bullish) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 120 - 160) ปรับตัวลดลง 9.02% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 165.77

- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลดลง โดยกลุ่มบัญชีนักลงทุนต่างประเทศยังคงอยู่ที่ระดับร้อนแรงอย่างมาก ขณะที่กลุ่มสถาบันภายในประเทศ กลุ่มนักลงทุนรายบุคคลและกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับร้อนแรง

- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)

ส่วนหมวดธุรกิจการเกษตร (AGRI) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด

- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ

"ภาวะการลงทุนในเดือนพฤศจิกายน ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวอยู่ในกรอบขึ้นลงช่วงใกล้เคียง 1700 จุด ในลักษณะพักฐานการลงทุน อย่างไรก็ตามจากปัจจัยหนุนจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 4 ที่มีขยายตัว 4.3% สูงสุดในรอบ 18 เดือน โดยตัวเลขการส่งออกมีเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น แม้ว่าการลงทุนภาครัฐในช่วงนี้จะหดตัวลงก็ตาม ทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับร้อนแรง สำหรับปัจจัยต่างประเทศมีปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นของสหรัฐยังมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษีและการคาดการณ์นโยบายทางการเงินของประธานคณะกรรมการนโยบายทางการเงินของสหรัฐคนใหม่ในการทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภาวะเศรษฐกิจยุโรปมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากภาคการบริโภคยังอยู่ในระดับที่ดีและการส่งออกมีแนวโน้มเติบโตดี เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยนโยบายผ่อนคลายทางการเงินยังคงดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตามองจากประเทศจีนหลังสิ้นสุดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลจีนกลับมาดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น เพื่อควบคุมปัญหาหนี้ในระบบที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความเคลื่อนไหวที่ยังคงมีอยู่จากความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีที่เป็นปัจจัยลบในการลงทุนแม้ว่าตลาดจะไม่ได้ตอบสนองมากนักก็ตาม"

ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนธันวาคม 2560

"ผลจากดัชนีคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 10 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ อุปทานในตลาดตราสารหนี้ การขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจไทย และการคาดการณ์การพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ"

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนธันวาคม 2560 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือนธันวาคมนี้ อยู่ที่ระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมครั้งหน้า โดยให้น้ำหนักในปัจจัยหลัก 3ประการ ได้แก่ 1) อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ 2)เศรษฐกิจไทย และ 3) อัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงินโลก

- ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี และ 10 ปี ในช่วงประชุม กนง. รอบเดือนกุมภาพันธ์ 2561 (ประมาณ 11 สัปดาห์ข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 83 ทั้งคู่ ซึ่งลดลงจากครั้งที่แล้ว (ระดับ 86 และ 89 ตามลำดับ) โดยดัชนียังคงอยู่ในระดับที่สะท้อนถึงทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญใน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1)อุปสงค์ อุปทานในตลาดตราสารหนี้ไทย 2)การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ 3)อัตราเงินเฟ้อของไทย 4)การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๒ อาลีเพย์พลัสขยายเครือข่ายพันธมิตรด้านการชำระเงินเป็น 35 ราย เชื่อมโยงผู้ค้ากับนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกันผ่านการชำระเงินบนมือถือ การขายของในแอปพลิเคชัน
๑๕:๓๙ ยกระดับบริการหลังการขายขึ้นอีกขั้นกับ Volvo Mobile Service เพียงนัดหมาย เราพร้อมให้บริการถึงหน้าบ้านคุณ
๑๕:๓๔ ประกาศราคาไทย HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนนแบบพับได้ระดับท็อป โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง พร้อมกล้องเพื่อการถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ
๑๕:๒๔ มหัศจรรย์แห่งเฟสทีฟกลางลมหนาว ที่ห้างหรูในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล
๑๕:๑๘ บี.กริม เพาเวอร์ ครองตำแหน่งเรตติ้งสูงสุด SET ESG Rating ระดับ AAA และอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน 7 ปีซ้อน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม
๑๔:๐๑ ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดช่วงเทศกาลปีใหม่ 40,000 ล้านบาท แนะลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
๑๔:๔๘ เที่ยวไทยสุขใจ ไทยพาณิชย์ โพรเทค มอบของขวัญปีใหม่ 2568 แจกฟรี! ประกันบ้านหรืออุบัติเหตุ 50,000 สิทธิ์
๑๕:๒๕ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมงานเลี้ยงการกุศล ส่งเสริมความเสมอภาคและโอกาสในสังคม
๑๕:๔๗ คณะผู้บริหารและพนักงาน ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล เยี่ยมชมโรงงาน 1NUO ที่ประเทศจีน
๑๔:๔๕ TFM เปิดแผนผลิตกุ้งยั่งยืน ดันไทยชิงโอกาสในตลาดโลก ชูนวัตกรรมอาหารสัตว์เศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน