นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแบบครบวงจรในอาเซียน เปิดเผยว่า "ธุรกิจพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศอินโดนีเซียที่ทางไทคอนเข้าไปร่วมลงทุนกับบริษัท เซอร์ยา ซีเมสตา อินเตอร์นูซ่า จำกัด (มหาชน) (SSIA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย และบริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี จากญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ "PT SLP SURYA TICON INTERNUSA" (SLP) เมื่อปี 2558 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยโครงการในเฟสแรก มีคลังสินค้าให้เช่าทั้งหมด 16 ยูนิต รวมพื้นที่ให้เช่า 34,560 ตารางเมตร ต่อมาในปี 2559 จึงได้ขยายโครงการเฟสที่สอง มีคลังสินค้าให้เช่าทั้งหมด 12 ยูนิต มีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่ารวมกว่า 27,648 ตารางเมตร ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและมีผู้เช่าคลังสินค้าเต็มแล้ว โดยทั้งสองเฟสตั้งอยู่ในโครงการสุรยาซิปตาร์ เทคโนปาร์ค (Suryacipta Technopark) จังหวัดคาราวัง (Karawang) ปัจจุบันบริษัท SLP มีพื้นที่อาคารคลังสินค้าให้เช่าภายในโครงการดังกล่าว รวมทั้งสิ้นกว่า 62,000 ตารางเมตร
ล่าสุด ไทคอนได้จับมือกับบริษัท SSIA อีกครั้ง ในการจัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อว่า "PT SURYA INTERNUSA TIMUR หรือ SIT" ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 510 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าคุณภาพระดับสากลเพื่อให้เช่าในประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ขยายการพัฒนาโครงการไปยังพื้นที่จังหวัดสุลาเวสีใต้ และจังหวัดกาลิมันตันใต้ ประเทศอินโดนีเซียเป็นพื้นที่แรก"
ทั้งนี้ SIT ได้คว้า "บริษัท ยูนิลีเวอร์ อินโดนีเซีย จำกัด (มหาชน) (PT Unilever Indonesia Tbk)" เป็นลูกค้ารายแรก และได้รับความไว้วางใจจากยูนิลีเวอร์ในการพัฒนาคลังสินค้า จำนวน 2 โครงการ โดยโครงการแรกตั้งอยู่ที่เมืองมากัสซาร์ จังหวัดสุลาเวสีใต้ ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติสุลต่านฮาซานุดดิน (Sultan Hasanuddin International Airport) และท่าเรือมากัสซาร์ และโครงการที่สองตั้งอยู่ในเมืองบันจาร์มาซิน จังหวัดกาลิมันตันใต้ ใกล้กับถนนทางหลวง ท่าอากาศยานนานาชาติสยามสุดินนอร์ (Syamsudin Noor International Airport) และท่าเรือไตรสักติ (Trisakti Port) ซึ่งทั้งสองโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่สะดวกในการขนส่งสินค้าเข้าเมืองและบริเวณโดยรอบ
จะเห็นได้ว่า โครงการทั้ง 2 แห่งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านการกระจายสินค้าของประเทศอินโดนีเซีย โดยอยู่ใกล้กับถนนทางหลวง สนามบิน และท่าเรือ ซึ่งสะดวกต่อการจัดเก็บและกระจายสินค้า ตลอดจนช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ การพัฒนาคลังสินค้าแบบ Built to Suit นี้ ยังมีระบบการก่อสร้างภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับสากลของยูนิลีเวอร์ ทั้งนี้ โดยยูนิลิเวอร์อินโดนีเซียเข้าดำเนินการในอาคารทั้ง 2 แห่งนี้แล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560
"การลงทุนครั้งนี้ นับเป็นการรุกขยายธุรกิจของไทคอนในประเทศอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพสูงดังเช่น SSIA ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของอินโดนีเซีย ซึ่งไทคอนเชื่อมั่นว่า ด้วยสัมพันธภาพทางการค้าที่แข็งแกร่งระหว่างไทคอนกับกลุ่มลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติจากทั่วโลก ตั้งแต่กลุ่มผู้ผลิตไปจนถึงกลุ่มผู้ให้บริการโลจิสติกส์ บริษัทฯจะสามารถนำข้อได้เปรียบนี้มาต่อยอดและสร้างความเข้มแข็งให้กับบริษัทร่วมทุนนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านความเข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านการออกแบบและวิศวกรรมเพื่อก่อสร้างและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการในระดับสากล" นายวีรพันธ์ กล่าว