ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ รองประธานบริหารกลุ่มบริษัท "สีเบเยอร์" กล่าวว่า "ด้วยนโยบายการดำเนินธุรกิจของเบเยอร์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในวันนี้ เรายังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมระดับโลก ภายใต้แนวคิด "Eco-Wellness Innovation" เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน ส่งผลให้ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของสีเบเยอร์ มีความโดดเด่น แตกต่าง อย่างยั่งยืน ผ่านผลิตภัณฑ์หลักของเบเยอร์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน โดยเบเยอร์มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 กลุ่มหลักได้แก่ สีทาอาคาร (Decorative Paints), ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ (Wood Coating), เคมีก่อสร้าง (Construction Chemicals), สีอุตสาหกรรม (Heavy Duty Coating) และสีพิเศษ (Special Paints) ได้แก่ สีสร้างลาย (Art Effects) และสีทอง (Gold Paints) ควบคุมการผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยมีกำลังการผลิตกว่า 40-50 ล้านลิตรต่อปี โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการผลิตควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบจัดการน้ำเสียหรือระบบการผลิตอื่นๆ ที่ไม่ส่งผลเสียและผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งมีคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ตลอดจนกระบวนการการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ ก้าวสู่เป็นผู้นำนวัตกรรมสีรักษ์โลกรักคุณ อย่างแท้จริง
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของสีในปี 2560 อยู่ที่ 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ราว 5% แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มในปี 2561 ตลาดสียังคงเติบโตต่อเนื่องที่ 5% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยบริษัทฯได้วางงบการทำตลาดไว้ที่ 400 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำแบรนด์ ในรูปแบบโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อต่างๆ ในส่วนเป้าหมายรายได้ บริษัทฯตั้งเป้าไว้ที่ 4,600 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 5%"
ด้าน อมรรัตน์ ชัยยศบูรณะ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) แบบยั่งยืน ในรูปแบบโครงการ "Beger Be Happy สีเบเยอร์สีแห่งความสุข" ในปี พ.ศ.2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและสร้างสรรค์จุดเริ่มต้น ในการร่วมมือกันแสดงพลังแห่งความดีช่วยเหลือสิ่งที่เป็นประโยชน์ สร้างรอยยิ้มด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบสู่สังคมไทย ในปีแรกมอบสีกันร้อนเบเยอร์คูลให้แก่ 54 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อทำนุบำรุงโรงเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งเราตระหนักถึงความสุขที่ได้รับจากโครงการนี้เป็นอย่างดี จึงเกิดการสานต่อจนเป็นโครงการดีๆ อย่าง "Beger Be Happy สีเบเยอร์ สีแห่งความสุข" ปีที่ 2 ในการเข้าไปถ่ายทอดความรู้เรื่องช่างสีและร่วมทาสีปรับภูมิทัศน์โรงเรียนพระดาบส ปีที่ 3 พนักงานเบเยอร์กว่า 1,000 ชีวิต ร่วมกันปลูกป่าชายเลนพร้อมปล่อยพันธุ์ปลาสู่ธรรมชาติ และในโอกาสที่กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ก้าวสู่ปีที่ 57 ในปี 2561 บริษัทยังคงเดินหน้ามอบความสุขแก่สังคม ในโครงการ "Beger Be Happy สีเบเยอร์ สีแห่งความสุข" ปี 4ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์สีเบเยอร์ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิและโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ เพื่อนำไปปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามขึ้น"