บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุน ABFTH ผู้ลงทุนเตรียมรับเงิน 25 ธ.ค. นี้ รวมมูลค่ากว่า 155 ล้านบาท

พฤหัส ๒๑ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๐๒
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 - 30 พฤศจิกายน 2560 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 20.00 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 155.51 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 ธันวาคม 2560

"สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมา กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 โดยกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 24 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 418.73 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 59 – 30 พ.ย. 60) กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.76% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.87% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.75% ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.97% ต่อปี" นายชัชชัยกล่าว

สำหรับจุดเด่นของกองทุน ABFTH คือ เป็นกองทุนรวม ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ (iBoxx ABFTH Index) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงมีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงเนื่องจากกองทุนมีอายุเฉลี่ยของตราสาร (Portfolio Duration) ยาวกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว และต้องการบริหาร Portfolio Duration ที่มีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 6-7 ปี เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น โดยปัจจุบันกองทุนมีขนาดประมาณ 9,500 ล้านบาท และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับมุมมองตลาดตราสารหนี้ในปี 2561 บลจ.กสิกรไทย คาดว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ยังคงมีความผันผวนตามความไม่แน่นอนในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ไทยยังมีแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศที่น่าจะทรงตัวต่อเนื่องในปี 2561 โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.50% ไปอย่างน้อยถึงกลางปีหน้า ส่งผลดีต่อราคาตราสารที่จ่ายผลตอบแทนคงที่ ประกอบกับปริมาณความต้องการตราสารหนี้ยังมีอยู่สูง จากสภาพคล่องในระบบที่ยังมีมากพอเมื่อเทียบกับอุปทานพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอย่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน FED คนใหม่ ส่งสัญญาณว่าจะสานต่อนโยบายการเงินแบบระมัดระวัง ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปี 2561 อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องจับตาเรื่องการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ว่าจะมีผลบังคับใช้ได้สำเร็จหรือไม่ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2%

ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน ABFTH สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ
๑๖:๑๘ ทรู คอร์ปอเรชั่น เตรียมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่รับปีมะเส็ง ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคง
๑๖:๒๕ วัน แบงค็อก เตรียมเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ศักราชใหม่สุดยิ่งใหญ่
๑๖:๐๖ EXIM BANK โชว์ศักยภาพ SFI แห่งแรกได้รับมาตรฐานสากล ISO 14064-1:2018 เดินหน้าบทบาท Green Development Bank
๑๖:๑๙ ซานตาคลอส ฟลายอิ้ง ส่งความสุขในเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๑๖:๔๓ Spacely AI คว้ารางวัลที่สาม ในการแข่งขันนวัตกรรมระดับโลกของ SketchUp
๑๖:๓๒ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทุ่มกว่า 1.6 ล้าน มอบความห่วงใย ร่วมฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังจากน้ำท่วมใหญ่
๑๖:๒๑ NRF เปิดตัว Mini C สาขาใหม่ในสหราชอาณาจักร ตอกย้ำกลยุทธ์ค้าปลีกแบบ Hub and Spoke ยอดขายทะลุเป้า พร้อมกระแสรีวิว 5 ดาวจากลูกค้า
๑๖:๓๘ บางจากฯ ร่วมสร้างสีสัน ส่งต่อสุขภาพดี ชวน เมย์ รัชนก ร่วมแข่งกีฬา Econmass Sport Day 2024
๑๖:๐๐ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เอิ้นหาพี่น้องโค้งสุดท้าย! ชวนมาม่วนซื่นส่งท้ายปี สูดอากาศดีกลางทุ่งดอกไม้บาน ชมงานศิลป์สุดอลัง พร้อมกิจกรรมม่วน ๆ ทั้งครอบครัว 2 สัปดาห์สุดท้าย