ขณะที่ "คูล เอเจนซี่" หนึ่งในผู้เล่นสำคัญของธุรกิจอีเวนท์ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมใหม่ๆมากขึ้น ล่าสุดร่วมกับ "ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม" นักจัดมิวสิคเฟสติวัลมือขั้นเทพ เปิดบริษัท แก่น 555 จำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยคูลฯ ถือหุ้น 55% และป๋าเต็ด 45%
บริษัทดังกล่าวจะเป็น "จิ๊กซอว์" สำคัญในการรุกจัดงานประเภท "เฟสติวัล" ที่สร้างความแตกต่างจากตลาดอีเวนท์ โชว์บิซทั่วไป ประเดิมบิ๊กอีเวนท์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2561 กับ "KHAOYAI COUNTDOWN" คอนเสิร์ตสุดคูลที่ MIDINTER GREEN FARM KHAOYAI จังหวัดนคราชสีมา ระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคมนี้
ไฮไลท์ของอีเวนท์ดังกล่าว อยู่ที่คอนเซ็ปต์ "กอด ข้าม ปี" ที่ป๋าเต็ด นำเอกลักษณ์การนับถอยหลังปีเก่าสู่ปีใหม่จากงานเคาท์ดาวน์ระดับโลกที่ "ไทม์สแควร์" ประเทศสหรัฐ มาใช้ คือการ "จูบ" มาเปลี่ยนเป็น "กอด" ให้ผู้ร่วมงานสามารถมอบความรักความปรารถนาดีแก่คนรอบข้างทั้งพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน เป็นต้น
"เขาใหญ่มีศักยภาพเป็นเมืองนักท่องเที่ยว โรงแรมที่พักกเต็มทุกปี และขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่พื้นที่นี้ยังไม่เคยมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ใหญ่ ดังนั้น ด้วยความเป็นมืออาชีพของป๋าเต็ด ความพร้อมด้านโปรดักชันต่างๆ บริษัทจึงมองเห็นช่องว่างตลาดและโอกาสในการจับกลุ่มเป้าหมายให้มาร่วมงานบิ๊กอีเวนท์ของฤดูหนาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ MIDWINTER ซึ่งบริเวณร้านอาหารแห่งนี้มีพื้นที่ 100 ไร่ รองรับผู้บริโภค3,000-5.000 คนต่อวัน" มิ่งมงคล ทวีกุลวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูล เอเจนซี่ จำกัด ผู้นำธุรกิจการจัดอีเวนท์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์เด็ดจากศิลปินที่ร่วมงาน 14 คน อาทิ สแตมป์ อภิวัชร์, บุรินทร์, สิงโต นำโชค, ลิเดีย, นูโวฯ จะมามอบความสุขทิ้งท้ายปีด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมี "เป้าหมายใหญ่" ต้องการเนรมิต "เวิลด์เฟสติวัล" อีเวนท์ที่ริเริ่มโดยคนไทยให้ใหญ่ "ระดับโลก" ดึงคนจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมงาน ซึ่งในประเทศไทย ยังไม่มีใครทำได้ นอกจา "ฟูลมูล ปาร์ตี้" ซึ่งเป็นงานสเกลใหญ่ที่นักท่องเที่ยว "ต้อง" บุ๊คไว้ในอีเวนท์ที่จะเข้าร่วมชนิดที่ไม่พลาด ส่วนเฟสติวัลระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันมีทั้งประเภทมิวสิค เฟสติวัล เช่น Tomorrowland เทศกาลตนดรี EDM (Elective Electronic Dance Music Festival) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นที่ประเทศเบลเยี่ยม และภูมิภาคต่างๆ 1 ประเทศ รวมถึง Glastonbury ที่ซัมเมอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ
เกณฑ์การขึ้นแท่น "เฟสติวัลระดับโลก" จะต้องมีขนาดใหญ่คนร่วมงานหลัก "แสนคน" ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มีศิลปินระดับโลกมาร่วมงาน เป็นต้น
"ภายใน 2 ปี จะได้เห็นเวิลด์เฟสติวัล ที่บริษัทจัดขึ้น และประเทศไทยมีศักยภาพในการจัดงานใหญ่ระดับโลกได้ สำหรับงบประมาณการจัดงานคาดว่าจะใช้อยู่ที่ระดับ 500-600 ล้านบาท หากมีความแข็งแกร่ง จะส่งออกอีเวนท์ไปจัดต่างประเทศด้วย"
ปีหน้า บริษัทยังเตรียมจัด "Young Festival" ซึ่งเป็นเทศกาลที่นำเสนอไลฟ์สไตล์ การรวมตัวของกลุ่มคน(Community) เพื่อฉีกตลาดการทำอีเวนท์ในเมืองไทย
จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทต้องการผลักดันรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท และติดท็อป 5 ของผู้นำธุรกิจอีเวนท์ใน 5 ปีข้างหน้า จากปี 2560 คาดว่าจะปิดรายได้ 500 ล้านบาท เติบโต 60% จากปีที่แล้วมีรายได้ 300 ล้านบาท ภายในปี 2562 บริษัทยังมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เพื่อระดมทุนในการขยายธุรกิจอีเวนท์ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งในตลาดต่อไป