“แสนสิริ” เผยความสำเร็จธุรกิจ “โรงแรมเอสเคป” 4 ปี โตต่อเนื่อง 66% ชูกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการสร้าง Brand Experience จับเทรนด์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติยุคใหม่

พุธ ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๗:๕๗
- คาดการณ์รายได้รวมทั้งสิ้น ปี 2560 เกือบ 100 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีเกินเป้า คาดการณ์สิ้นปีทะยานถึง 70%

- ตั้งเป้าปี 2561 โตต่อเนื่อง 7% รุกตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียเพิ่มขึ้น ลุยเพิ่มช่องทางชำระเงินสะดวกผ่าน Alipay และ WeChat

"แสนสิริ" เผยผลประกอบการธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ "เอสเคป" (ESCAPE) มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 66% ภายในระยะเวลา 4 ปี ชี้ปัจจัยความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ผ่าน Digital Marketing และ Online Influencer engagement ดันยอดนักท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 โตเฉลี่ยต่อเนื่อง 7% พร้อมชูจุดเด่นด้านราคาที่ตอบโจทย์ อาหารและบริการ ตลอดจนการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆแก่ลูกค้า มั่นใจดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดเอเชีย

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "โรงแรมเอสเคป เป็นธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจหลักของแสนสิริในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในหัวเมืองตากอากาศ โดยมุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่หลากหลายอย่างมีเอกลักษณ์หรือการสร้าง Brand Experience เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ซึ่งลูกค้าโรงแรมจะได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษเช่นเดียวกับลูกบ้านแสนสิริ ทั้งด้านดีไซน์ ไลฟ์สไตล์และการบริการ (Customer Journey) ตลอดการดำเนินงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557-2560) ในทำเลหัวหินและเขาใหญ่ เอสเคปสามารถแสดงให้เห็นศักยภาพการเติบโตและก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มผู้นำในเซ็กเมนต์เดียวกันได้ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยรวมสูงขึ้น 66%หรือคิดเป็นรายได้รวม 340 ล้านบาท"

"สำหรับปี 2560 คาดการณ์รายได้รวมทั้งสิ้นจากทั้งสองสาขาเกือบ 100 ล้านบาท ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OCC) สูงเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ และคาดการณ์สิ้นปีจะสูงขึ้นถึง 70% แม้ว่าในไตรมาสที่ 1-3 จะได้รับผลกระทบจากบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แต่ในไตรมาสที่ 4 พบว่ามีอัตราการจองห้องพักเฉลี่ยสูงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้คาดว่าเมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคม อัตราการเข้าพักที่เขาใหญ่จะสูงถึง 80% และที่หัวหิน 70%" นายอุทัยกล่าวเสริม

เมื่อวิเคราะห์สัดส่วนตลาดในปีที่ผ่านมาพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความสำเร็จของการทำ Digital Marketing และ Online Influencer Engagement ตลอดจนการใช้สื่อบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้ยังมีการใช้กลยุทธ์ราคาโดยการออกแบบแพ็คเกจที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการทำ Hot Deal Promotion ที่เน้นการจองห้องพักตรงกับโรงแรมมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่เข้ามาพักที่โรงแรม ตอบสนองเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ'Vacation with an Artist' ซึ่งเป็นครั้งแรกของเอสเคป ที่ร่วมมือกับศิลปินและนักออกแบบชื่อดัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านสีสันบรรยากาศของโรงแรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าในช่วงต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลอง 'Escape Journey' (เอสเคป เจอร์นี่) กิจกรรมท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นเพื่อสัมผัสวิถีธรรมชาติโดยร่วมมือกับพันธมิตรในย่านรายรอบโรงแรม ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยให้การตอบรับเอสเคปเป็นอย่างดี จนสามารถทำยอดขายจากการออกบู๊ทในงานไทยเที่ยวไทยได้สูงถึง 8 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงสุดที่เคยมีมา

นอกจากรายได้ในส่วนของห้องพัก ธุรกิจการบริการอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมทั้งสองแห่งก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นถึง 92% ภายในระยะเวลา 4 ปี ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆอยู่เสมอ ซึ่งในไตรมาส 4 นี้ เอสเคป นำเสนอเมนูอาหารรสชาติถูกปากคนไทยและต่างชาติมากขึ้นในแบบต้นตำรับไทย รวมถึงการสร้างจุดเด่นของร้านอาหารให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมเอสเคป ทั้งนี้ สัดส่วนของนักท่องเที่ยวแบบ หมู่คณะและบริการจัดสัมมนาปีในนี้ ยังเพิ่มสูงขึ้นโดยคิดเป็น 15% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมด

นายอุทัย กล่าวถึง เป้าหมายและทิศทางของเอสเคปในปี 2561 ว่า "นักท่องเที่ยวในประเทศยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเอสเคป โดยในปีหน้าเราจะเน้นทำLoyalty Program มากขึ้น หรือโปรแกรม Escape Club (เอสเคป คลับ) โดยการมอบสิทธิพิเศษ หรือกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ ในขณะเดียวกัน เรายังต้องทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อดึงโอกาสจากความนิยมของทำเลทั้งสองแห่ง โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ผ่านความร่วมมือกับ OTA หรือการพัฒนาช่องทางการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เช่น Alipay WeChat Pay รวมไปถึงการทำ Online Influencer Engagement ในตลาดต่างประเทศ และพัฒนาเว็บไซต์ภาษาจีน โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตเฉลี่ยในปีหน้าไว้ที่ 7% โดยมีสัดส่วนตลาดต่างประเทศ 20% และตลาดในประเทศ 20%"

"แสนสิริ เชื่อมั่นว่า เอสเคป จะช่วยสนับสนุนธุรกิจคอนโดและบ้านพักของแสนสิริในหัวเมือง ตากอากาศที่มีชื่อเสียงได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งจะมีการตอบรับด้านการจองห้องพักได้เป็นไปตาม

เป้าหมายเนื่องจากกิจกรรมการตลาด และการพัฒนาคุณภาพและการบริการอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่" นายอุทัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ