พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานปิดงาน"สุดยอด SME ส่งสุข ส่งท้าย ส่งความประทับใจตลาดคลองผดุงกรุงเกษม 2560" ว่า ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ริเริ่มจัดตั้งแต่เดือน ม.ค.2558 จนถึงครั้งสุดท้ายในเดือน ธ.ค.2560 รวมทั้งหมด 38 ครั้ง มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สลับสับเปลี่ยนมาเป็นเจ้าภาพอย่างต่อเนื่อง จำนวน 24 หน่วยงาน โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) รับหน้าที่เจ้าภาพครั้งสุดท้าย โดยตลอดการจัดงานที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี และโอทอปเข้าร่วมจำหน่ายสินค้ากว่า 8 พันราย จำนวนผู้เข้าเที่ยวงานกว่า 4 ล้านคน ยอดเงินสะพัดจากร้านค้าภายในงานกว่า 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ความสำเร็จของตลาดคลองผดุงกรุงเกษม จะนำไปขยายผลเป็นต้นแบบการจัด "ตลาดประชารัฐ" ซึ่งตลอดปีหน้า (2561)จะกระจายจัดกว่า 6,500 จุดทั่วประเทศ ส่งเสริมให้เกิดตลาดใกล้บ้าน สะดวกต่อประชาชน และกระจายรายได้สู่ระดับชุมชนท้องถิ่นอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันก้าวเข้าสู่ตลาดยุค 4.0 ที่ไม่เพียงไม่จำหน่ายสินค้าอย่างเดียว แต่ต้องมีการจัดกิจกรรม ความบันเทิง และสอดแทรกความรู้ให้กับผู้มาเดินตลาดควบคู่กันไปด้วยแม้จะเป็นตลาดเล็กๆก็ตาม
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า การจัดงานตลาดคลองผดุงเกษมครั้งสุดท้าย ภายใต้ชื่อ "สุดยอด SMEs ส่งสุข ส่งท้าย ส่งความประทับใจ ตลาดคลองผดุง2560" ซึ่งธนาคารรับหน้าที่เจ้าภาพ ตั้งแต่วันที่ 12-27 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง โดยตลอด 16 วันของการจัดงาน เกิดเงินสะพัดรวมกว่า 640 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายสินค้าจากร้านค้าภายในงานประมาณ 30 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 2 แสนคน ยอดขายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกจากกรมธนารักษ์ ประมาณ 10 ล้านบาท ยอดประมูลทรัพย์ NPA ประมาณ 100 ล้านบาท ยอดอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร ประมาณ 500 ล้านบาท จำนวนกว่า 300 ราย นอกจากนั้น ยังมีการไกล่เกลี่ยหนี้ โดยกรมบังคับคดี จำนวนกว่า 1,200 ราย รวมถึง ช่วยให้ประชาชนลดค่าครองชีพจากการซื้อสินค้าราคาประหยัดภายในงานมากกว่า 4,000 คน มูลค่ากว่า 3.5 แสนบาท
กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวต่อว่า สาเหตุที่การจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากจะเป็นการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ที่ข้างทำเนียบ ครั้งสุดท้ายก่อนส่งต่อความสำเร็จไปยังตลาดประชารัฐทั่วประเทศในปีหน้า (2561) ทำให้ประชาชนที่ชื่นชอบตลาดแห่งนี้ จึงเดินทางมาซื้อสินค้าเพื่อเก็บความประทับใจเป็นครั้งสุดท้าย
"การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ส่งเสริมให้สินค้าเกษตร ของดี ของเด็ด ของดังจากทั่วทุกท้องถิ่นไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น เพิ่มช่องทางและสร้างทางเลือกในการกระจายสินค้าจากผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคโดยตรง เกิดตลาดชุมชนสำหรับเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าคุณภาพ อีกทั้ง พาผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนมานำเสนอขายแพคเกจท่องเที่ยวให้ผู้บริโภคกลุ่มคนเมือง นำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชน ผู้ประกอบการท้องถิ่นและเกษตรกรอย่างทั่วถึง ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง" นายมงคล กล่าว