อามีเลีย เด็กนักเรียนหญิงที่อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซีย จะรู้สึกต่างไปจากทุกครั้งเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่นี้ อามีเลียเกิดในครอบครัวฐานะยากจน หนูน้อยจึงไม่เคยร้องขอพ่อแม่ให้ซื้อเครื่องเขียนใหม่ ๆ ตอนเปิดเทอม อย่างไรก็ดี เด็กหญิงอายุ 8 ขวบผู้นี้กำลังจะได้เป็นเจ้าของกระเป๋านักเรียนใบใหม่เมื่อเธอมาถึงโรงเรียนในวันเปิดเรียนวันแรกนี้ คันทรี่ การ์เด้น (Country Garden) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ได้จัดโครงการ "Back to School" ขึ้นภายในพื้นที่โครงการฟอเรสต์ ซิตี้ (Forest City) โดยอาสาสมัคร 50 รายได้พาเด็ก ๆ อายุระหว่าง 7 -12 ปี จำนวน 90 คนไปเลือกซื้อเครื่องเขียนใหม่ในร้านค้าละแวกใกล้เคียง ซึ่งเด็กแต่ละคนได้รับมอบสิ่งของที่จำเป็นในการเรียนมูลค่าประมาณ 500 หยวน (ประมาณ 75 ดอลลาร์) ประกอบด้วยกระเป๋านักเรียน เครื่องเขียน ชุดนักเรียน รองเท้าและถุงเท้า
เด็กชายอายุ 10 ปีรายหนึ่งที่อยากโตขึ้นเป็นตำรวจ เล่าให้ฟังว่า "พ่อของผมเคยเลือกเครื่องเขียนราคาถูกให้ผม เพราะเราไม่ค่อยมีเงิน แต่ในปีนี้ ผมได้เลือกเครื่องเขียนด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ผมขอขอบคุณคันทรี่ การ์เด้นครับ โครงการนี้มีความหมายอย่างมากสำหรับพวกเรา"
แอรอน มูนาจัต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของ คันทรี่ การ์เด้น แปซิฟิกวิว กล่าวว่า บริษัทหวังว่าครอบครัวของเด็ก ๆ เหล่านี้ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ของฟอเรสต์ ซิตี้ จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโครงการพัฒนาอสังหาฯ โครงการนี้ และหวังด้วยว่าแคมเปญการกุศลนี้จะเป็นการกระตุ้นให้พนักงานชาวจีนสื่อสารกับคนในพื้นที่มากขึ้น ทำความเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนต่อไป
ฟอเรสต์ ซิตี้ ดำเนินโครงการบำเพ็ญประโยชน์อย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างโครงการ และได้บริจาคเงินแล้วมากกว่า 3.2 ล้านหยวน (ประมาณ 480,000 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเป็นทุนก่อสร้างโรงเรียนประถมศึกษา 5 แห่งในพื้นที่ รวมทั้งมอบสิ่งของจำเป็น และฝึกอบรมนักเรียนมาตั้งแต่ปี 2558 และที่สำคัญคือ ฟอเรสต์ ซิตี้ เปิดรับครูหลายคนในปีนี้ เพื่อสอนภาษาจีนที่โรงเรียนเหล่านี้เป็นระยะเวลา 3 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อันเป็นการช่วยให้นักเรียนพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไปในภายหน้า โดยความช่วยเหลือเหล่านี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวยะโฮร์บาห์รู
นอกจากนี้ ฟอเรสต์ ซิตี้ ยังได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่นักศึกษาด้อยโอกาสที่มหาวิทยาลัย Universiti Teknologi Malaysia (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย หรือ UTM) เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เรียนจนจบ และบริษัทยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนโดยรอบอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการสร้างถนน การปกป้องระบบนิเวศทางน้ำ การฝึกสอนทักษะแก่ชาวบ้าน การใช้เวลาช่วงเทศกาลตรุษจีนร่วมกับเด็กกำพร้าและคนชรา ตลอดจนการส่งคำอวยพรไปยังสมาชิกชุมชนที่เป็นชาวมุสลิมในช่วงเทศกาลวันหยุดสำคัญทางศาสนาอิสลามอีกด้วย
"กุญแจที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศนั้นขึ้นอยู่กับความใกล้ชิดของประชาชน และโดยมากแล้ว สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากความเข้าใจซึ่งกันและกัน อันเป็นพื้นฐานทางด้านสังคมของยุทธศาสคร์เส้นทางสายไหมใหม่ หรือ One Belt, One Road ของจีน ด้วยเหตุที่มีบริษัทจีนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนที่ยึดมั่นในความเมตตากรุณาและจิตอันเป็นกุศลจึงได้เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมใหม่" ศาสตรจารย์เกา ฉางเตา จากมหาวิทยาลัย China Foreign Affairs University กล่าว "เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าบริษัทคันทรี่ การ์เด้น โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ระดับแนวหน้าของจีนและติดอันดับบริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกของโลก เป็นที่ยอมรับในหมู่ชาวมาเลเซีย หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากมาย ทั้งยังได้ดึงบริษัทจีนอีก 200 แห่งมาเข้าร่วมโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศอย่าง ฟอเรสต์ ซิตี้ ในมาเลเซีย การทำกิจกรรมเพื่อการกุศลของบริษัทมีความสำคัญต่อแผนยุทธศาสตร์ One Belt, One Road ของจีนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้ช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างชาวจีนและชาวมาเลเซีย อีกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศจีนด้วย"
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180102/2023600-1
คำบรรยายภาพ - อาสาสมัครจากฟอเรสต์ ซิตี้ ช่วยเด็กนักเรียนมาเลเซียเลือกซื้อเครื่องเขียน