งานประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันนี้ เป็นการนำเจ้าของแบรนด์และผู้ค้าปลีกมาพบปะกันเพื่อร่วมหารือว่า สตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคมิลเลนเนี่ยลนี้ กำลังพลิกโฉมหน้ารูปแบบการค้าไปอย่างสิ้นเชิงเทลสกอร์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของการปฏิวัติดังกล่าว โดยใช้แพลทฟอร์มที่สามารถดึงศักยภาพของ Micro Influencer และการทำตลาดแบบบอกต่อ (Peer to Peer Marketing) มาใช้จนเกิดผลสำเร็จ
นางสาวสุวิตา จรัญวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งเทลสกอร์ได้ขึ้นกล่าวในงานประชุม M2020 ปี 2560 เป็นปีของ Influencer และความจำเป็นที่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในการติดต่อสื่อสาร คอนเทนท์ที่ทันยุคทันสมัยเพื่อให้ผู้บริโภคนำไปบอกต่อ
"กลุ่ม Influencer นับว่าเป็นฮีโร่คนใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพในการทำการตลาด Influencer ก็คือผู้บริโภคตัวจริงที่สื่อสารให้ผู้บริโภคคนอื่นๆ รวมไปถึงกลุ่มฟอลโล่วเออร์ของตัวเองให้รับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในวิธีที่จริงใจ ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม เพราะว่า Influencer ก็มีความสนใจในเรื่องเดียวกับผู้บริโภค เทลสกอร์ประสบความสำเร็จในการสร้างการเชื่อมต่อดังกล่าวนั้นระหว่างแบรนด์กับ Influencer โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์การทำการตลาดแบบใช้ผลงานเป็นตัวชี้วัด"
เทลสกอร์ได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ 5 ประการในงานประชุม M2020 ที่นักการตลาดจะต้องรับทราบ เพื่อที่จะสามารถสร้างแผนกลยุทธ์ด้านคอนเทนท์ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต อันดับแรก การทำการตลาดไม่ใช่การที่แบรนด์ออกมาพูดเกี่ยวกับตัวเอง แต่มันขึ้นอยู่กับว่าผู้บริโภคมีความรู้สึกรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์อย่างไรมากกว่า
อันดับที่สอง ถึงแม้ว่าการโฆษณาในโลกดิจิตอลจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ว่ากลับไม่ได้ผลการตอบการแทนจากการลงทุน (ROI) มากเท่ากับที่คาดหวังไว้ เนื่องจากมีระบบบล็อกโฆษณาเข้ามาขัดขวางการโฆษณาทางออนไลน์ ซึ่งอาจมีโฆษณาที่ถูกบล็อกสูงถึง 25% ในภูมิภาคนี้ การนำ Influencer เข้ามาใช้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างมากและยังช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นอีกด้วย
อันดับที่สาม คอนเทนท์ยังคงเป็นพระเอก โดยที่คนยุคใหม่ซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่สุด อยากทำความรู้จักกับสินค้าผ่านทางคอนเทนท์ ไม่ใช่ผ่านทางโฆษณา ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นการสื่อสารแบบปากต่อปาก อันดับที่สี่ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อคอนเทนท์แบบปากต่อปากมากกว่า จากการสำรวจโดย Forrester เมื่อไม่นานมานี้พบว่า "70% ของผู้ซื้อเชื่อคำแนะนำของเพื่อนและครอบครัว"
อันดับที่ 5 พลังของการชักจูงใจกำลังเปลี่ยนไปอยู่ในมือของ Micro Influencer ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเกอร์หรือดาวเด่นในยูทูป Micro Influencer ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 10-30,000 คน จะสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมได้มากกว่าเมื่อเทียบกับคนดังเบอร์ใหญ่ๆ เช่น เซเลปที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป ตลาดที่ใช้ Macro Influencer ที่มีผู้ติดตามเยอะๆ เหล่านี้กำลังถึงจุดอิ่มตัว แต่ศักยภาพของ Micro Influencer ยังคงมีอยู่อีกมาก และ Micro Influencer ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าอีกด้วย
ในระหว่างที่ขึ้นกล่าวในงานประชุม M2020 นั้น นางสาวสุวิตาได้กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทความสำคัญของ Micro Influencer ในแง่ของช่องทางการจำหน่ายและการทำตลาดแบบเดิมๆ "กลุ่ม Influencer สามารถสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคและกลุ่มตลาดได้ในส่วนที่สำคัญมากที่สุดของกระบวนการ สามารถชักจูงใจให้เกิดการซื้อได้สำเร็จ ช่วยจุดประกายความสนใจและการมีส่วนร่วมซึ่งแปรเปลี่ยนไปเป็น Lead Conversions ทำให้ผู้มีลงทะเบียนเป็นสมาชิกมากขึ้น มีคนเข้ามาชมมากขึ้น มีผู้ดาวน์โหลดแอปมากขึ้น และช่วยให้ยอดขายสูงขึ้น"
เทลสกอร์ในประเทศสิงคโปร์เน้นย้ำว่า สิ่งที่จะทำให้การร่วมงานกับ Micro Influencer ประสบความสำเร็จได้นั้น ทางแบรนด์และนักการตลาดต้องคำนึงถึงทรัพยากรต่างๆ ที่ใช้ เช่น งบประมาณและเวลาในการค้นหาและว่าจ้าง Micro Influencer นอกจากนั้น ยังต้องคิดหาวิธีเพิ่มปริมาณการเข้าถึงผู้บริโภคโดยใช้เทคโนโลยีและแพลทฟอร์มที่เหมาะสม เมื่อวางแผนกลยุทธ์ด้านคอนเทนท์และ Influencer เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่าช่องทางใดและคอนเทนท์ใดใช้ได้ผล เพื่อที่จะได้พลังของสื่อต่อไป
นอกจากนั้น ยังต้องคำนึงถึงความท้าทายต่างๆ เช่น การสร้างแบรนด์ ความน่าเชื่อถือ และปริมาณ รวมไปถึงเครื่องมือสำหรับใช้วัดการเฝ้าติดตาม เทลสกอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักการตลาดสร้างดัชนีชี้วัดผลงานซึ่งจะช่วยกำหนดแผนกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดโดยอาศัย Micro Influencer ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลการตอบแทนจากการลงทุน