นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ความสนใจและความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ ของผู้บริโภคในช่วงท้ายปี'60 บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงไตรมาสแรกปี 2561 นี้ ทั้งโอกาสในการตัดสินใจของผู้บริโภคและมูลค่าตลาดรวมที่ขยายตัว ด้านบรรดาผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวและเตรียมพร้อมรุกขยายในปีนี้เช่นกัน สำหรับเวทีการแข่งขันและการสื่อสารกับผู้บริโภค จากเดิมผู้ประกอบการจะเน้นสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก แต่แนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยต่างหันมาสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเป็นสื่อหลัก
ในส่วนของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ปีที่ผ่านมายอมรับว่ายังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมทั้งผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหลาย ๆ พื้นที่ในต่างจังหวัด กอปรกับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายย่อยมีการแข่งขันตัดราคากันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัด ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายรวมของบริษัทฯต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ดังนั้นแผนการตลาดในปี 2561 บริษัทฯจะหันมาโฟกัสและสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แน่นอนว่าบริษัทฯยังคงหลีกเลี่ยงจะแข่งขันเรื่องราคากับรายย่อย แต่จะเน้นคุณภาพหรือบริการที่แตกต่าง และจุดยืนหรือจุดขายที่ชัดเจนคือ บ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม ๆ กับในปีนี้บริษัทฯจะเริ่มกลับมาเปิดสาขาใหม่อีกครั้ง หลังจากชะลอการเปิดสาขาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นลงทุนเปิดสาขาเองเป็นหลัก รวมทั้งจะขอซื้อสิทธิ์สาขาแฟรนไชส์จากผู้ลงทุนเดิมบางรายคืน เพื่อจะรุกขยายตลาดในจังหวัดที่มีศักยภาพด้วยตัวเอง สำหรับเป้ายอดขายรวมปี 2561 ตั้งเป้าเท่ากับปีก่อนหรือประมาณ 1,200 ล้านบาท
"ตัวเลขเป้ายอดขายดังกล่าวอาจจะตั้งไว้ต่ำ เมื่อพิจารณากับจำนวนสาขาของพีดีเฮ้าส์ที่มีอยู่ทุกภูมิภาคเกือบ 30 แห่งในปัจจุบัน หรือหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่มีสาขาไม่กี่แห่งแต่ตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงกัน เราไม่ต้องการตั้งเป้ายอดขายเพื่อกดดันตัวเองมากนัก เพราะประเมินว่าปีนี้หลาย ๆ อย่างเพิ่งจะเริ่มฟื้นกลับมาดีขึ้น ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภค กอปรกับปีนี้จะให้เวลากับการปรับปรุงการบริหารจัดการภายในองค์กร ทั้งด้านบุคลากรและระบบปฏิบัติงานบนไอทีให้มีความทันสมัย ทั้งนี้เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐานสม่ำเสมอกัน และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0 ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว" นายพิศาล กล่าวยอมรับ
สำหรับ กิจกรรมการตลาดในช่วงไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯเตรียมเข้าร่วมงานอีเวนท์ออนไลน์หรือ บ้านและวัสดุออนไลน์ 2561 (HBO Fair 2018) จัดโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมการตลาดออนไลน์แนวใหม่ของภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน และนับเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคในวงกว้างอย่างแท้จริง โดยเฉพาะศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์นั้น มีสาขาให้บริการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้โอกาสที่ผู้บริโภคจะสื่อสารและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น