ทางด้านนางสาวเมลาณี ตันติวานิช เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ บริษัท ดรอปโซน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานเทศกาลดนตรี ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 เปิดเผยว่า "งานเทศกาลดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ (International Tech - Music Festival) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทั่วโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 60% และประเทศไทยก็เป็นตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพที่พร้อมมากในการจัดงานเทศกาลดนตรีระดับโลก บริษัทฯ จึงได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท จัดงาน "ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018" เทศกาลดนตรีในรูปแบบ Tech - Integrated Music Festival เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 - 3 มีนาคม 2561 นี้ ณ วันเดอร์เวิร์ลเอ็กซ์ตรีม ปาร์ค (Wonderworld Extreme Park) ถนนรามอินทรา โดยงานมหกรรมดนตรีระดับโลกดังกล่าวนี้ บริหารจัดการตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบภาพ แสง และเสียงที่มีเทคนิคสุดล้ำทันสมัย และมีทีมงานชื่อดังจากยุโรป Switch Audiovisuals ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงาน Sónar Barcelona ร่วมกับ Ledscontrol ทีมงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ระดับโลกที่มีรางวัลการันตีมากมาย และยังเป็นผู้สร้างเวที Garuda ของ DWP และคลับชื่อดังต่างๆ ของโลกรวมถึง Zouk ในสิงคโปร์ และซุเปอร์คลับอย่าง Space และ Amnesia ที่อีบีซาในสเปนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญสายต่างๆ ที่มีผลงานระดับแนวหน้าของยุโรปอีกเป็นจำนวนมาก เช่น Tomorrowland และ Primavera Sound เป็นต้น ที่สำคัญความสดใหม่ และความไม่ธรรมดาของงานนี้คือ ความสร้างสรรค์ในการผสมผสานคุณสมบัติของวีดีโอเกมส์ และภาพยนตร์เข้าไปในเทศกาลดนตรีได้อย่างลงตัว ซึ่งทีมงานพร้อมพันธมิตรการันตีว่างานนี้จะฉีกกฎ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับมิวสิคเฟสติวัลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย ทั้งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของการจัดงานมิวสิคเฟสติวัลระดับโลกอีกด้วย" นางสาวเมลาณีกล่าว
นางสาวเมลาณี กล่าวต่อไปว่า "บริษัทฯ วางแผนจะจัดงานขึ้นเป็นเทศกาลประจำปีในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวถึง 5 ปี (2561 – 2565) โดยทั้ง 5 ครั้งนี้จะจัดเป็นธีมในแนวนวนิยายแบบ Sci-fi ที่บอกเล่าเรื่องราว Post - apocalyptic หรือโลกในยุคที่เพิ่งผ่านพ้นจากภัยพิบัติแบ่งเป็น 5 ตอนด้วยกัน โดยในปีแรกใช้ชื่อว่า Chapter 1: Apocalypse เป็นการเปิดตัวและแนะนำนักปาร์ตี้ทั้งหลายสู่โลกแห่งดรอปโซน เน้นไปที่สุนทรียะแนวไซเบอร์พังก์ โดยมีเหล่า Audiomancers หรือดีเจแนวอิเล็กทรอนิกส์มิวสิคชื่อดังมากมาย อาทิ Dash Berlin, Kaskade, Sven Vaeth, Paul Van Dyk, Valentino Khan ฯลฯ ประจำอยู่ตามเวทีต่างๆ ซึ่งผู้จัดตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ให้งานนี้เป็นงานปาร์ตี้แบบเกมส์ MMORPG เสมือนจริงครั้งแรกในโลก เรามีเวทีหลัก 3 เวทีคือ The Core, The Station และ The Armory นอกจากนี้ยังมีโซนต่างๆ อาทิ โซน The Arcade ที่มี 360 VR Dome ของเล่นจาก Pro-toys และ Instaroid พร้อมผลงานจากสตูดิโอภาพยนตร์ชื่อดังของโลก และของเล่นเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย โซน The Arena เป็นโซนเล่นยิงเลเซอร์นำเสนอโดย Lazgam และ The Bazaar โซนอาหารและงานศิลปะที่จะถูกตกแต่งเสมือนฉากในภาพยนตร์ Sci-fi ต่างๆ และในปีต่อๆ ไปเราก็จะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าขึ้นไปเรื่อยๆ โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกกับการเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกที่ดรอปโซนได้สร้างขึ้น การจัดงานในครั้งนี้ เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนอีกหลายองค์กร ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า การจัดงานเทศกาลดนตรีดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยวในเมืองไทยเพิ่มมากขัน อีกทั้งยังทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเดสติเนชั่นใหม่แห่งเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติอีกด้วย"
สำหรับบัตรเข้างานจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท แบ่งเป็นบัตร EARLY ACCESS Silver Pass (2 วัน) และ Gold Pass (2 วัน) พร้อมมี Diamond Dome สำหรับ 10 ท่าน และ Gold Tables สำหรับ 6 ท่าน โดยบัตรแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ กัน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/event/dropzonefestivalbangkok2018 และทำการสำรอง Diamond Dome ได้ที่ อีเมล์: [email protected] // ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซด์: www.dropzonefestival.com และช่องทางโซเชียล มีเดีย ได้ที่ : @dropzonefestival ทั้งนี้ทางผู้จัดมั่นใจว่า ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความสนุกสนาน พร้อมสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นประทับใจมากมายในงานเทศกาลดรอปโซนเฟสติวัล รวมไปถึงการจัดพรีปาร์ตี้ (Pre - Party) ที่คลับชั้นนำของเมืองไทยก่อนวันจัดงานจริงอีกด้วย