การทำงานที่มุ่งมั่นของประกันสังคมเพื่อผู้ประกันตน

อังคาร ๑๖ มกราคม ๒๐๑๘ ๐๘:๕๐
ประกันสังคม แจงข้อเรียกร้องของ คปค. และกลุ่มภาคีเครือข่าย 18 องค์กร ส่วนใหญ่ดำเนินการแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ด้านเลขาธิการ สปส. ย้ำต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ล่าสุดในวันที่ 17 ม.ค.61 นี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากบริการทางการแพทย์

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) และกลุ่มภาคีเครือข่าย 18 องค์กร ที่แถลงข้อเรียกร้องในหัวข้อ "2 ปี พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2558 กับข้อเรียกร้องที่ยังไม่ได้" ตามข้อเรียกร้องดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างการดำเนินการ ขณะที่บางส่วนใกล้ได้ข้อสรุป อาทิ

1. กรณีการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำคัญ ประเด็นแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ประกันตนได้รับความเสียหายจากการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการบรรเทาภาระทางการเงิน และด้านจิตใจให้กับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ซึ่งจะได้ข้อสรุปในวันที่ 17 ม.ค.2561 นี้ และในส่วนของกรณีการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำคัญสำนักงานประกันสังคมได้ร่างข้อเสนอการเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกันตน และปรับปรุงขยายเกณฑ์อายุของผู้ประกันตนให้สามารถได้รับการตรวจสุขภาพได้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับช่วงก่อนเกษียณอายุ ซึ่งจะต้องเป็นโรคที่มีความเสี่ยงในวัยทำงาน เช่น การซักประวัติ เพื่อค้นหาความผิดปรกติและปริมาณความเสี่ยงด้านสุขภาพ, ประเมินความเสี่ยงวัยทำงาน, กรณีที่ซักประวัติแล้วพบว่ามีความเสี่ยง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษา, การทำงานของไต Cr ตรวจค่า eGFR, การทำงานของตับ, ไขมันในเส้นเลือดชนิด LDL, Triglyceride ทั้งนี้ รายการและอัตราค่าตรวจสุขภาพข้างต้นอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเพื่อเสนอคณะกรรมการการแพทย์ต่อไป ส่วนในการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากไม่ควรเพิ่มกรณีการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในชุดสิทธิประโยชน์ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน และผู้ประกันตนอาจได้รับความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากการตรวจคัดกรองได้

2. กรณีปฏิรูประบบบำนาญชราภาพ ซึ่งมีเสียงคัดค้านแนวคิดขยายบำนาญชราภาพผู้ประกันตนจากอายุ 55 ปี เป็น 60 ปี เนื่องจากเงินไม่ได้เพิ่มนั้น จากการประชุมรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูประบบบำนาญกองทุนประกันสังคมทั่วประเทศ แยกเป็นส่วนภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง ผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูประบบบำนาญกองทุนประกันสังคม ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 5,926 คน มีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 4,274 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 1 คือการขยายอายุเกิดสิทธิรับบำนาญชราภาพจาก 55 ปี เป็น 60 ปี โดยควรขยายอายุเนื่องจากผู้ประกันตนจะได้มีระยะเวลาในการออมเพิ่มขึ้น และเลือกแนวทางที่ 2 เห็นควรขยายอายุรับบำนาญชราภาพตามหลักสากล รับบำเหน็จชดเชย หากไม่สามารถทำงานจนถึงอายุรับบำนาญได้ รองลงมาเลือกแนวทางที่ 3 และเห็นว่าควรขยายอายุการเกิดสิทธิ รับบำนาญชราภาพตามหลักสากล และสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์บำเหน็จไปส่วนหนึ่งก่อนครบอายุรับบำนาญ เมื่อครบอายุ เกิดสิทธิรับบำนาญจะได้รับบำนาญในจำนวนที่ลดลง และสุดท้ายแนวทางที่ 4 เห็นว่าควรขยายอายุรับบำนาญ ขั้นต่ำเฉพาะผู้ประกันตนใหม่ สำหรับผู้ประกันตนเดิมสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์บำเหน็จไปส่วนหนึ่งก่อนครบอายุรับบำนาญ แต่เมื่อครบอายุเกิดสิทธิบำนาญจะได้รับบำนาญในจำนวนที่ลดลง สำหรับประเด็นประกันสุขภาพต่อเนื่องผู้เข้าร่วมประชุมก็เห็นด้วยยอมให้ประกันสังคมหักบำนาญส่วนหนึ่งเป็นเบี้ยประกันสุขภาพ และประเด็นการปรับสูตรการคำนวณบำนาญจากค่าเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย เป็นการคำนวณจากค่าจ้างเฉลี่ยตลอดอายุการทำงานก็เห็นด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการเพิ่มฐานเงินสมทบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และทำความเข้าใจต่อผู้ประกันตน ซึ่งก็เริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องดูความพร้อมของผู้ประกันตนหากไม่พร้อมก็ต้องขยายเวลาออกไปก่อน อย่างไรก็ตามในระยะยาวเราต้องมาคิดสูตรในการปรับเพิ่มการจ่ายเงินสมทบ เช่นจะปรับทุกๆ ปี ปรับตามภาวะเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจ อายุคน เป็นต้น

3. กรณีการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมมาตรา 8 ซึ่งสมควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกตั้ง คาดว่าจะประกาศเป็นกฎหมายได้ในไม่ช้า

4. กรณีพัฒนาสิทธิประโยชน์ ในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ สำนักงานประกันสังคมได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ 2 กรณี ดังนี้ 1.กรณีเพิ่มสิทธิแต่ไม่เพิ่มเงิน มีให้ 2 ทางเลือก โดยทางเลือกที่ 1 คือ เจ็บป่วยนอน รพ. เพิ่มค่าชดเชยการขาดรายได้จาก 200 บาท เป็น 300 บาท ทางเลือกที่ 2 ไม่นอนโรงพยาบาล แต่นอนรักษาตัวที่บ้าน ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ ถ้าต้องรักษาเกิน 3 วัน จะได้รับชดเชยให้วันละ 200 บาท แต่ถ้าไม่ถึง 3 วัน ได้วันละ 50 บาท ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง ส่วนกรณีเสียชีวิต หากส่งสมทบครบ 60 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์ 3,000 บาท 2.กรณีการเพิ่มเงินสมทบซึ่งเป็นทางเลือกใหม่แรงงานจ่ายสมทบเดือนละ 300 บาท จะได้เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วยวันละ 300 บาท, ทุพพลภาพจ่ายตลอดชีวิต เสียชีวิตจะได้ค่าทำศพ 40,000 บาท เพิ่มเงินบำเหน็จชราภาพเดือนละ 150 บาท ถ้าส่งสมทบครบ 180 เดือน จะให้เงินเพิ่มอีก 10,000 บาท และเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรคนละ 200 บาท ตั้งแต่แรกเกิดแต่ไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ คราวละไม่เกิน 2 การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ดังกล่าว ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้พิจารณาและยืนยันตามร่างดังกล่าวและส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่ากรมการปกครองขอแก้ไขถ้อยคำเล็กน้อย คาดว่าแรงงานนอกระบบสามารถ รับสิทธิสวัสดิการตามมาตรา 40 ได้ในเร็ววันนี้ โดยครั้งนี้มีความพิเศษเพราะถือว่า จะเป็นครั้งแรกที่รัฐมีการจ่ายสมทบให้กับแรงงานนอกระบบอีกด้วย

5. กรณีการปฏิรูปทันตกรรม ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้ให้สิทธิผู้ประกันตนได้รับค่าบริการทางการแพทย์ กรณีทันตกรรม สำหรับรายการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด ในอัตราเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็นแต่ไม่เกิน 900 บาท ต่อรายต่อปีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ในเรื่องของการตรวจสุขภาพช่องปาก สำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยรูปแบบแนวทางการจัดบริการทางการแพทย์กรณีทันตกรรมที่ทำให้สุขภาพช่องปากและฟันของผู้ประกันตนดีขึ้น โดยมีระยะเวลาการศึกษาวิจัย 1 ปี ซึ่งสำนักงานประกันสังคม จะนำมาพิจารณาในรายละเอียดและประเมินความคุ้มค่าก่อนนำไปปรับปรุงสิทธิประโยชน์อีกครั้ง

นายสุรเดชฯ กล่าว ในตอนท้ายว่า กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ขอขอบคุณกลุ่มเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) และกลุ่มภาคีเครือข่าย 18 องค์กรที่คอยตรวจสอบติดตามการทำงานของสำนักงานประกันสังคมมาโดยตลอด สำนักงานประกันสังคมยังคงยึดหลักการดำเนินงานภายใต้แนวทางของรัฐบาลปัจจุบันและกระทรวงแรงงานโดยพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ทั้งนี้เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและของผู้ประกันตนอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version