โซลูชั่นสำหรับปีใหม่ – ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมสำหรับอนาคต

พุธ ๑๗ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๖:๒๑
โดยคุณประคุณ เลาหกิตติกุล, ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยของบริษัทอรูบ้า หนึ่งในบริษัทของฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์

ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลกโดยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็นผลอันเนื่องมาจากการตื่นตัวในการใช้อุปกรณ์พกพาและการเพิ่มขึ้นของคนรุ่นยุคมิลิเนียน ผนวกการริเริ่มนโยบายของรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วทั้งเอเชียที่สนับสนุนและผลักดันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสังคมให้เป็นดิจิตอลในระดับกว้างขวาง (mass digitization) - จากนโยบาย Digital India ไปจนถึง Hong Kong Smart City Blueprint ในอนาคตการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยิ่งขยายตัวมากขึ้น ด้วยการเข้ามาของ(1) ทุนและผลประโยชน์ของจีนจะเข้ามาเป็นตัวกระตุ้นช่วยผลักดันการเติบโตทางเทคโนโลยีของภูมิภาคนี้ต่อไป

สำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้ผลักดันตัวแบบนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจที่เรียกว่า Thailand 4.0 ขึ้นมาโดยมุ่งหวังว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้มากยิ่งขึ้นจะเป็นตัวผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป บางส่วนของนโยบายนี้ประกอบด้วยการขยายความสามารถทางเทคโนโลยีหลัก ๆ ดังเช่น เทคโนโลยีชีวะภาพ เทคโนโลยีการดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ยิ่งกว่านั้นตัวแบบนี้ยังเน้นผลักดันให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการเชื่อมต่อทั้งหลายของประเทศให้ดีขึ้น และเพิ่มความสามารถให้แก่องค์กรธุรกิจท้องถิ่นด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถในการผลิตของธุรกิจ

ในขณะเดียวกัน สาธารณะชนคนไทยก็ยอมรับการปรับตัวเป็นดิจิตอลมากขึ้น การมีการเชื่อมต่อและอุปกรณ์พกพาเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนในยุคมิลิเนียมแล้ว ซึ่งคิดเป็น 32 % ของประชากรทั้งประเทศ จากรายงานงานวิจัยของ Frost & Sullivan คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายใน IoT ของประเทศไทยจะขยายตัวอย่างรวดเร็วจนถึง 973.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ (2) (ประมาณ 32,000 ล้านบาทไทยที่อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ฯ ) ในปี 2020 (พ.ศ. 2563)

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนเป็นดิจิตอลมักตามมาด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมทาง IT ที่ซับซ้อน เมื่อรัฐบาลหรือองค์กรเอกชนนำเทคโนโลยีอย่างเช่น hybrid cloud, the internet of Things (IoT) และปัญญาประดิษฐ์มาใช้ร่วมกัน ยิ่งกว่านั้นเมื่อสภาพแวดล้อมทาง IT มีความซับซ้อนมากขึ้นยอมเพิ่มความอ่อนไหวต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้นตามไปด้วย เห็นได้จากการโจมตีโดย ransomware ที่ชื่อ WannaCry และ Petya เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อาชญากรรมทางไซเบอร์ได้พัฒนาขึ้นไปมากและในปัจจุบันมีอันตรายสูงถึงขั้นทำให้โลกทั้งโลกปั่นป่วนกันไปหมด

ภัยคุกคามเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้ตัวเอามาก ๆ เพราะว่าองค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียกว่า 80% เห็นว่าตัวเองมีโอกาสถูกโจมตีมากกว่าองค์กรในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก(3) แม้ว่า UN Global Cybersecurity index จะให้ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์จัดอยู่ในประเทศที่มีความปลอดภัยทางไซเบอร์สูงในระดับสามอันดับต้น ๆ ในการในรายงานปี 2017 แต่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียอย่างเช่น จีน อินเดีย ไต้หวัน และเวียดนามล้วนได้รับความเสียหายค่อนข้างสูงจากการโจมตีของ WannaCry ตามข้อเท็จจริงแล้วครึ่งหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกโจมตีในสองวันแรกอยู่ในประเทศจีน ตามรายงานของ National Computer network Emergency Response Centre ของจีนเอง

เมื่อองค์กรต่าง ๆ ต้องมุ่งมั่นให้โซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของตน พวกเขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่ายังคงสามารถรักษาระดับการให้บริการที่รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง มีผลกระทบที่ดีและทันต่อความต้องการของลูกค้า ? ต่อไปนี้เป็นโซลูชั่นใหม่ 4 ประการในปีใหม่สำหรับธุรกิจทั้งหลายที่จะต้องมีในรายการ checklist ที่จำเป็นต้องมีของตน

ปีใหม่ เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ (New year, new you)

ก่อนที่เราจะพิจารณาแนวโน้มของสภาพแวดล้อมในระดับมหัพภาคเราจำเป็นต้องมองทบทวนและตรวจสอบภายในองค์กรของเราก่อน

ในโลกที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ การทำระบบ IT ให้เป็นอัตโนมัติและนำบริการบนระบบคลาวด์มาใช้งานกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสามารถให้ธุรกิจปรับตัวตามทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากนี้ การใช้อุปกรณ์พกพาอย่างแพร่หลายได้เปลี่ยนธรรมชาติของการเข้าถึงระบบ IT ให้จำเป็นต้องสามารถรองรับอุปกรณ์หลากหลายที่แต่ละคนมีโดยการเข้าจากสถานที่ใดก็ได้ซึ่งไม่สามารถกำหนดคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ต้องรองรับการจราจรของข้อมูลบนระบบเครือข่ายในรูปแบบใหม่ ๆ การเข้าสู่ระบบเครือข่ายของอุปกรณ์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนและสภาพแวดล้อมทาง IT ที่สลับซับซ้อนแต่อ่อนไหวต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยปราศจากขอบเขตด้านการรักษาความปลอดภัย

ตามรายงานของ Frost & Sullivan พบว่ามีเพียง 4.3 % ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียที่เชื่อว่าตนเองสามารถยืดหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ ในทำนองกลับกันเท่ากับเป็นการชี้ให้เห็นว่าองค์กรส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ไม่มีความมั่นใจในความระดับความพร้อมของระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ของตน(4) ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งใน 25 ประเทศระดับต้น ๆ ของโลกที่ติด malware (5) โดยมีมากกว่า 5 ล้านอุปกรณ์ที่ติด malware ข้อมูลจาก Microsoft Digital Crimes Unit สถาปัตยกรรมระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิม(legacy) สร้างมาเพื่อรองรับยุค client-server ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับรองรับความต้องการในปัจจุบันขององค์กรต่าง ๆ และลูกค้าที่ต้องการให้สามารถรองรับการใช้อุปกรณ์พกพา IoT และทำงานได้บนระบบคลาวด์

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบเครือข่ายแบบใหม่ที่เป็น intelligent core system เพื่อจะสามารถรองรับโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องทำระบบเครือข่ายของตนให้ทันสมัย ผนวกระบบมีสายและไร้สายเข้าด้วยกันเป็นระบบเดียว นำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อเปลี่ยนที่ทำงานให้เป็นดิจิตอล ในปี 2018 (พ.ศ.2561) องค์กรส่วนมากจะต้องมี intelligent core system ซึ่งค่อนข้างยืดหยุ่น มีระบบปฏิบัติการณ์ที่สามารถเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมได้เต็มที่ตามต้องการและระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถครอบคลุมทุกระดับการใช้งาน และยังคงเป็นระบบเครือข่ายที่สามารถขยายได้ตามความต้องการและง่ายในการบริหารจัดการอีกด้วย

ทำอย่างอาจได้อย่างอื่นที่คาดไม่ถึง (What goes around might not always come around)

ก้าวเดินเล็ก ๆ ที่ผิดพลาดในวันนี้อาจมีผลร้ายในขนาดที่มโหฬารในอนาคต สะท้อนภาพการรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย ช่องโหว่เล็ก ๆ ช่องหนึ่งหรือการมองข้ามจุดเล็ก ๆ ในบางมาตรการรักษาความปลอดภัยสามารถนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลอย่างมโหฬารจนเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ (headline-grabbing data breach) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่ามีความสามารถในการมองเห็นที่ชัดเจนและโปร่งใสครอบคลุมทุก ๆ ส่วนขององค์กรในการสร้างศักยภาพเพื่อป้องกันการโจมตีใด ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ขณะที่บริษัทมากกว่าครึ่งในภูมิภาคเอเชียนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้งานในปัจจุบัน แต่กลับพบว่ามีถึง 84 % ของบริษัทเหล่านี้เคยประสบกับการโจมตีและการรั่วของระบบรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ IoT(6) ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า IoT นั้นเองเป็นตัวนำความท้าทายและภัยคุกคามตัวใหม่มาให้องค์กร และทุกองค์กรจะต้องตื่นตัวระมัดระวังต่อภัยคุกคามใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อข้อมูลและทรัพยากรทาง IT โดยผ่านอุปกรณ์ IoT

คำถามคือจะนำกลยุทธความปลอดภัยสำหรับ IoT ที่ดีที่สุดมาใช้ได้อย่างไร องค์กรจำเป็นต้องระบุลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ละเอียดมากขึ้นและกำหนดการใช้งานตามบทบาทของผู้ใช้เป็นส่วน ๆ สำหรับการเข้าสู่ระบบเครือข่าย รวมทั้งทบทวนการเปลี่ยนแปลงในการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย (campus design) ทั้งหมด กลยุทธการรักษาความปลอดภัยขององค์กรสำหรับ IoT ต้องรวมถึงการสร้างโพลิซี่โดยอัตโนมัติที่สามารถระบุว่าอุปกรณ์ไหนสามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ สามารถเข้าถึงข้อมูลและแอพพลิเคชั่นอะไรได้บ้าง และใครมีอำนาจในการบริหารจัดการและดูแลรักษาอุปกรณ์เหล่านี้ นั่นหมายถึงจะต้องมีโซลูชั่นที่สามารถรักษาความปลอดภัยให้แก่ธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานของ IOT ขององค์กรผ่านแนวคิดต้องปิดช่องโหว่บนคลาวด์ให้หมด (closed-loop approach) ดังเช่นการใช้ Aruba 360 Secure Fabric มาช่วยเพิ่มความสามารถในการมองทะลุปรุโปร่งถึงพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาต่าง ๆ อันเป็นกุญแจที่สำคัญมากในการสร้างกลยุทธระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ IoT อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

เล่นซ่อนหา (Hide and seek)

เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เราอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ที่ซ่อนอยู่โดยการใช้ระบบดั้งเดิม ๆ ต่อไป แต่ในสภาพบรรยากาศที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างความผูกพันกับลูกค้า(customer engagement) ได้แบบตอบสนองทันที (real time) และสะดวกกลายเป็นการสร้างความแตกต่างที่มีผลต่อธุรกิจอย่างสูง มีธุรกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มองหาโอกาสใหม่ ๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์บริการอ้างอิงสถานที่ (location-based services) ใช้การวิเคราะห์และการสร้างความผูกพันกับลูกค้าแบบเรียลไทม์

ยิ่งธุรกิจต้องการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างโอกาสในการผูกพันกับผู้ใช้ให้มากขึ้น และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย การใช้บริการอ้างอิงสถานที่และการวิเคราะห์ยิ่งจะถูกใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ หน่วยงาน IT ในองค์กรธุรกิจค้าปลีก ดูแลสุขภาพ และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ต้องการที่จะมีความสามารถในการระบุรูปแบบการจราจรบนระบบเครือข่าย การใช้พื้นที่และทรัพยากรทาง IT ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ให้ได้ดีขึ้น

ตัวอย่างการใช้ระบบติดตามทรัพย์สิน (asset tracking) ที่ใช้ง่ายและสะดวกสำหรับธุรกิจบริการดูแลสุขภาพ ค้าปลีกและคลังสินค้าเป็นสิ่งที่หลาย ๆ องค์กรต้องใช้ การใช้ Bluetooth Low Energy (BLE) เข้ามาใช้ร่วมกับ access point แบบไร้สายอย่างเช่น Aruba Tags จะช่วยเพิ่มความสามารถที่มีผลโดยตรงต่อธุรกิจและการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้โดยไม่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับที่สองที่ค่อนข้างแพงขึ้นมารองรับ (an expensive secondary infrastructure)

ไปเร็วขึ้นหรือไม่ก็กลับบ้านไปเลย (Go fast or go home)

โมเดลและเทคโนโลยีต่าง ๆ ทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแต่ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นจริงเสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องการพาร์เนอร์ที่จะมาช่วยเพิ่มเติมและขยายความสามารถในการผูกพันกับลูกค้าผ่านดิจิตอล (digital engagement) ในปี 2018 เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ ที่เรียกว่า 802.11ax - เป็นมาตรฐานใหม่ของระบบ LAN ไร้สาย – เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาการผูกพันกับผู้ใช้ที่ปลายทาง (end user engagement) ลองจินตนาการถึงความเร็วที่สูงขึ้น 4 ถึง 10 เท่า - นั้นคือสิ่งที่ 802.11ax สัญญาจะทำให้เป็นจริง ตามรายงานการศึกษาของ The State of Online Retail Performance(7) พบว่าเวลาโหลดเว็บเพจที่ช้าลง 2 วินาทีในเว็บ e-commerce ส่งผลร้ายทำให้อัตราการดูเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวแล้วจากไป (bounce rates) สูงขึ้นถึง 103 % มาตรฐาน 802.11ax ไม่เพียงทำให้การเข้าถึงเร็วขึ้นเท่านั้น การเข้าถึงในสถานที่ที่คนเข้ามาใช้มาก ๆ จะไม่สะดุดช้าลงและยังคงรวดเร็วอย่างต่อเนื่องไหลเลื่อน

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคือความเข้าใจการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ (users interact) ธุรกิจสามารถลงทุนไปในเครื่องมือที่ก้าวหน้ามาก ๆ แต่มันในสายตาของผู้ใช้ต้องน่าสนใจและใช้ง่าย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพึ่งคู่ค้าทางเทคโนโลยีที่สามารถให้สถาปัตยกรรมที่มีบริการที่สามารถตระหนักรู้ถึงบริบท (context aware service) ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับว่า ผู้ใช้เป็นใคร? ทำอะไร? และอย่างไรในระบบเครือข่าย? และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้เสริมสร้างความปลอดภัยของระบบเครือข่ายและคุณภาพการให้บริการของแอพพลิเคชั่นให้ดีขึ้นและยืดหยุ่นสามารถครอบคลุมในทุก ๆ ส่วนของระบบเครือข่าย รวมทั้งบริการจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ ได้ด้วย

เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นด้วยอัตราความเร็วของแสง และในทางเดียวกันต่างต้องยอมรับว่าภัยคุกคามก็เพิ่มความซับซ้อนตามอัตราการเพิ่มของ IoT ในอัตราเดียวกันเช่นกัน ด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มและการคาดการณ์ต่าง ๆ ล้วนทำเพียงไม่เกิน 3 เดือนในปัจจุบัน องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องเตรียมตัวป้องกันภัยคุกคามใกล้ตัวในระบบเครือข่ายที่คาดไม่ถึงและจะต้องเลือกใช้ระบบเครือข่ายที่ถูกทดสอบแล้วว่าพร้อมจะต่อสู้ป้องกันภัยเหล่านี้ในอนาคต การที่ Aruba มีโซลูชั่นที่พร้อมส่งเสริมการใช้อุปกรณ์พกพา (mobility) และความคล่องตัว (agility) ในการปรับเปลี่ยนขององค์กร ขณะเดียวกันมีความก้าวหน้าที่พร้อมจะสู้กับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้นนี้ด้วย – องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องทำเพียงก้าวแรกก้าวเดียวคือเลือกเรา

เหนือกว่าอื่นใด ในบรรยากาศที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆเงินลงทุนทุกบาททุกสตางค์ล้วนมีค่าและไม่มีใครต้องการที่จะปล่อยให้เงินของตนรั่วไหลไปอีกหลายล้านอย่างสูญเปล่าหลังจากอุตส่าห์ลงทุนป้องกันภัยคุกคามไปแล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อตัวเลขผลกำไร/ขาดทุนในบรรทัดสุดท้ายของงบการเงิน

(1)Techwire Asia , What tech trends are on the rise in 2018.

(2)IoT Business Platform , IoT Thailand: market to reach US$973.7mil in 2020.

(3)BBC, Asia Companies Have World's Worst Cybersecurity study says.

(4)Frost & Sullivan: Exploring Cyber Security Maturity in Asia: A study of Enterprise Corporate Executives, IT Executives & IT Practitioners' Perceptions towards Cyber Security Readiness in Asia-Pacific.

(5)Tech in Asia , Cybersecurity in Thailand, firms lose up to $100m. reports show.

(6) Aruba Networks:The Internet of Things : Today and Tomorrow.

(7) Akamai: The State of Online Retail Performance.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ เม.ย. สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท โรงแรมที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของคุณ
๑๗ เม.ย. คอนติเนนทอล เปิดตัวเทคโนโลยี Ac2ated Sound เมื่อหน้าจอแสดงผลสามารถส่งเสียงได้ !
๑๗ เม.ย. ออปโป้ชวนสัมผัสความงามประเพณีไทย ผ่านภาพพอร์ตเทรต จากวิดีโอสารคดี สีสันใหม่ ในวันสงกรานต์
๑๗ เม.ย. ล้ำไปอีกขั้น. ไฟน์ไลน์ซักผ้าเข้มข้น ดีลักซ์ เพอร์ฟูม คริสตัล บูเก้ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ Charming Booster
๑๗ เม.ย. Phytomer Thailand เปิดตัวทรีทเม้นท์สำหรับผิวคนในเมืองที่จะต้องเผชิญภาวะฝุ่นละออง PM 2.5
๑๗ เม.ย. เตรียมล็อคคิว หลิง-ออม ชวนแฟน ๆ ร่วมเบิร์ดเดย์ LINGORM BIRTHDAY CHARITY 2025 กดบัตร 20 เม.ย. นี้
๑๗ เม.ย. โก โฮลเซลล์ ลุยเคาะรั้วมหาวิทยาลัย ชี้ช่องตำแหน่งงาน นำร่อง ม.มหาสารคาม เจาะนิสิตเฉพาะทาง เพิ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ตอกย้ำ Brand Core
๑๗ เม.ย. กรมการท่องเที่ยว ชวนผู้ประกอบการไทยอบรมออนไลน์ รู้ลึก เกณฑ์คุณภาพที่พักนักเดินทาง Home Lodge
๑๗ เม.ย. MOTHER ส่งซิกผลงาน Q1/68 เริ่ด!
๑๗ เม.ย. บี.กริม เพาเวอร์ ร่วมงาน Sustainability Week Asia 2025 ครั้งที่ 4 ฉายวิสัยทัศน์ ตอกย้ำผู้นำพลังงานสะอาด ก้าวสู่เป้าหมาย Net