บรรยากาศการแถลงข่าวฯ นับเป็นการรวมพลสุดยอดนักชก ซึ่งต่างโชว์ความพร้อมสำหรับการขึ้นสังเวียนเกียรติยศ "THAI FIGHT 2017" รอบชิงชนะเลิศ ศึกนัดสำคัญในการป้องกันตำแหน่งแชมป์ของ 2 นักชกไทย ได้แก่ "แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2017 ซึ่งผ่านศึกรอบคัดเลือกมาได้อย่างงดงาม และจะขึ้นสังเวียนป้องกันตำแหน่งแชมป์กับ "เนมจอน ทัคทาโบเอฟ" นักชกจากประเทศอุซเบกิสถาน ในแบบสวมนวม รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท พิกัด 70 กิโลกรัม ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมรางวัลรถปิกอัพ "อีซูซุ ดีแมคซ์" และ "ป.ต.ท.เพชรรุ่งเรือง" แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2016 ซึ่งทำผลงานชนะน็อกยกแรกในรอบคัดเลือก จะขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ "ดานี่ เอ็นจิบา" นักชกจากประเทศฝรั่งเศส ในแบบคาดเชือก รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท พิกัด 70 กิโลกรัม ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
คุณปนัดดา เจณณวาสิน กล่าวว่า "อีซูซุภาคภูมิใจกับ แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์คนล่าสุด ที่สามารถก้าวเข้าสู่การแข่งขันไทยไฟท์ 2017 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนอกจากแสนสะท้านแล้ว ยังมี ป.ต.ท.เพชรรุ่งเรือง แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2016 และไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วงวินดี้สปอร์ต แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2014 เข้าร่วมชิงถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรในครั้งนี้ด้วย อีซูซุขอส่งกำลังใจให้กับนักชกไทยให้ทำผลงานการชกที่ดีให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ และครองถ้วยรางวัลพระราชทานให้คงอยู่กับประเทศไทยอีกครั้ง"
พร้อมกันนี้ยังมีการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลพระราชทานในแบบสวมนวมอีก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นเวลเทอร์เวท พิกัด 67 กิโลกรัม และรุ่นมิดเดิลเวท พิกัด 72.5 กิโลกรัม ซึ่งผู้ชนะจะได้ครองถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมรางวัลรถปิกอัพ "อีซูซุดีแมคซ์" โดยในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะเสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันฯ และพระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่นักมวยผู้ชนะการแข่งขันในแต่ละรุ่นอีกด้วย
การแข่งขัน "THAI FIGHT 2017" รอบชิงชนะเลิศ จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง ในวันเสาร์ที่ 27 มกราคม ศกนี้ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 ออริจินอล และช่อง 3 HD (ช่อง 33) เวลา 18.20-20.00 น. และทางช่อง 3 SD (ช่อง 28) เวลา 20.00-21.45 น.