'ซีพีเอ็น’ ผนึกกำลังพันธมิตร 6 ธนาคารชั้นนำปูพรม QR Code Payment ทั่วประเทศ ชูแนวคิด “The New Chapter of Cashless Life” ประวัติศาสตร์หน้าใหม่การค้าปลีก “สังคมไทยไร้เงินสด” เต็มรูปแบบ

จันทร์ ๒๒ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๕:๔๖
- ความร่วมมือระดับชาติเพื่อความสะดวกของคนทั่วประเทศ นำการชำระเงินด้วย QR Code ของธนาคารชั้นนำมาใช้กับร้านค้าใน "เซ็นทรัลเวิลด์" "เซ็นทรัลพลาซา" และ "เซ็นทรัลเฟสติวัล"

- ปักหมุดไตรมาสแรกปี 61 เดินหน้าติดตั้ง QR Code Payment ตั้งเป้ากว่า 4,000 ร้านค้าที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น เฟสแรกเจาะกลุ่มร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย ก่อนลุยเฟสสองร้านค้าและ anchor ขนาดกลางและขนาดใหญ่ หวังช่วยดึง traffic มายังศูนย์ฯ ทุกสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 10% จากความสะดวกและโปรโมชั่นที่ผู้บริโภคได้รับ

- คาดการณ์ค้าปลีกไทยโต 10-20% และยอดบัญชีผู้ใช้ Mobile Banking โตขึ้นแตะ 30 ล้านบัญชี

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของไทย นำโดย ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ ร่วมกับพันธมิตร 6 ธนาคารชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, และธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงความร่วมมือยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งไร้เงินสดครั้งยิ่งใหญ่ด้วย QR Code Payment ที่ร้านค้าในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ ด้วยแนวคิด "The New Chapter of Cashless Life" มิติใหม่แห่งชีวิตไร้เงินสด เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 และตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ Digital Mobility ที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิตอล

ปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า "ในวันนี้ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับ Digital Disruption ค้าปลีกเองต้องปรับตัวไม่เฉพาะแพลตฟอร์มของการซื้อขาย แต่เรื่องการชำระเงินที่เป็นธุรกรรมสำคัญก็กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิตอลอย่างเต็มตัว ด้วยนวัตกรรมการชำระเงินด้วย QR Code เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย ซีพีเอ็น ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาศูนย์การค้าและผู้นำวงการค้าปลีกไทย เรามุ่งนำเสนอประสบการณ์รีเทลที่ดีที่สุดทั้งสำหรับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ วันนี้เรามีความมุ่งมั่นที่จะจับมือกับพันธมิตรธนาคารชั้นนำทั้ง 6 แห่ง เพื่อผสานพลังความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างวงการค้าปลีกและการเงินการธนาคาร ในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการติดตั้งและกระจายการชำระเงินด้วย QR Code ไปยังร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศทั้งเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล"

ปกรณ์กล่าวต่อไปว่า "ความร่วมมือในครั้งนี้ เรายึด 'Partnership Strategy' เป็นหลักเพื่อผนึกกำลังส่งเสริมธุรกิจของกันและกัน โดยซีพีเอ็นในฐานะรีเทลรายใหญ่ มีประสบการณ์ร่วม 37 ปี พร้อมที่จะนำจุดแข็งและโนฮาวน์ของเรามาร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารในการช่วยเสริมความแข็งแกร่งในครั้งนี้ ได้แก่

1. Largest Physical Retail Platform (พื้นที่รีเทลใหญ่ที่สุด): ซีพีเอ็นพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าทั้ง 'เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล' รวม 32 สาขาทั่วประเทศ โดยมี GLA 1.7 ล้าน ตร.ม. และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันยอด traffic ของทุกศูนย์ฯ รวมกันเกิน 1 ล้านคนต่อวัน โดยเราตั้งใจให้ทุกศูนย์การค้าของเรามีบทบาทเป็น 'Center of Life' หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในทุกพื้นที่ที่เราตั้งอยู่ ดังนั้น ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจึงเป็น touch point ที่ใหญ่ที่สุด เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเป้าหมายจำนวนมากได้เข้าถึงและใช้ QR Code Payment จริง

2. Best Retail Experience and Engagement (ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุด): โดยเราใช้ Customer Centric หรือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเป็นแนวทางหลักในการบริหาร จึงทำให้ทุกศูนย์ฯ ของเรามอบ Retail Experience และ Engagement ที่ลงลึกถึงระดับ Micro Moments นั่นคือเราเข้าไปอยู่หรือเกี่ยวข้องกับทุกๆ โมเม้นท์การใช้ชีวิตของลูกค้า โดยหนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือการสร้างสรรค์งานอีเว้นท์ที่ดึงดูดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ในแต่ละปี ศูนย์การค้าทุกสาขาของเรามีอีเว้นท์รวมกันมากกว่า 1,000 งาน ซึ่งรวมถึงอีเว้นท์ที่เปิดพื้นที่การขายให้กับผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและรายใหญ่ เราจึงมีเครือข่ายของผู้ค้าและร้านค้าอยู่ทั่วประเทศที่เป็นเป้าหมายหลักของการริเริ่มใช้ QR Code Payment เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน

3. CRM Innovation Strategy (กลยุทธ์นวัตกรรมลูกค้าสัมพันธ์): ซีพีเอ็นสร้าง Innovation CRM โดยเน้นวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้า ความสนใจและความต้องการของลูกค้า ผ่านการทำแคมเปญ The 1 Card ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการจับจ่ายใช้สอยแบบ Seamless Experience โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O2O (Online-to-Offline-to-Online) และการตลาดแบบ Customized Marketing เจาะกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ทำการตลาดได้แม่นยำขึ้น ขณะนี้ The 1 Card มีฐานสมาชิกกว่า 12 ล้านคนที่ครอบคลุมถึงชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะเป็น Big Data ให้เราร่วมกับพันธมิตรธนาคารสามารถทำงานร่วมกัน ในการมอบโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้วย QR Code"

ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ ซีพีเอ็นและพันธมิตรธนาคารจะเดินหน้าติดตั้งการใช้ QR Code Payment ตั้งเป้าไว้กว่า 4,000 ร้านค้า ที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ โดยในเฟสแรกจะเจาะกลุ่มร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ แบรนด์แฟชั่น 822 แบรนด์, สินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ 805 แบรนด์, ร้านค้าแบบ Kiosk และผู้เช่ารายย่อยให้บริการเบ็ดเตล็ดรวมกว่า 1,500 ร้าน รวมไปถึงร้านอาหารภายใน 'Food Park' ที่ศูนย์ฯ 30 สาขารวมกว่า 800 ร้าน ร่วมด้วยแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ได้แก่ Giordano, Guy Laroche, Swatch, Havaianas, Kyo Roll En, Simply W, Mezzo Coffee, Sfree, DOITUNG, Poli-Chem Car Wash, The Rink Ice Area และ Pororo Aquapark Bangkok เป็นต้น

"สำหรับเฟสต่อเนื่องจากนี้ตลอดทั้งปี เราจะขยายการใช้ QR Code Payment ขยายสู่คู่ค้าและ Anchor รายใหญ่ของซีพีเอ็น รวมไปถึงการทำแคมเปญโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ ผมเชื่อว่าการนำวิธีการชำระเงินในรูปแบบ QR code มาปรับใช้กับร้านค้าภายในศูนย์ฯ ของซีพีเอ็นจะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ในแบบ 5 Wins คือ 1) ผู้บริโภค ได้รับความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย และได้รับประโยชน์จากโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ 2) ร้านค้าผู้ประกอบการ เพิ่มโอกาสในการขาย ไม่ต้องรับชำระด้วยเงินสด โดยเฉพาะรายเล็ก ไม่ต้องเก็บเงินสด ได้รับความสะดวกในด้านการบริหารเงินรายได้ มีโอกาสขยายกิจการและสร้างความเติบโตให้ธุรกิจได้ง่ายขึ้นจากการตรวจสอบฐานข้อมูลที่มีกับธนาคาร 3) ธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้า ได้ประโยชน์ในแง่ความเติบโตของตลาดค้าปลีกที่มากถึง 10-20% และซีพีเอ็นคาดหวังว่าจะช่วยสร้าง Traffic ใหม่ๆ ให้กับทุกศูนย์ฯ มากขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากผู้บริโภคได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่น 4) วงการการเงินการธนาคาร สามารถลดต้นทุนในการบริการเงินสด สามารถมอบบริการทางธุรกรรมการเงินแก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และโอกาสในการเข้าถึงพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค รวมถึงขยายฐานลูกค้า Mobile Banking คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 30 ล้านบัญชี 5) ประเทศชาติ ที่สามารถลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ อาทิ การผลิตเหรียญและธนบัตร ลดปัญหาเงินปลอม รวมถึงเศรษฐกิจเติบโตจากภาคประชาชนที่ใช้จ่ายมากขึ้นและภาคธุรกิจที่ขยายตัว" ปกรณ์กล่าวสรุป

รายชื่อผู้บริหาร (จากซ้าย)

คุณปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริหารช่องทางการขายและบริการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)

คุณฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรีคอนซูเมอร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)

คุณอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล ธนาคารออมสิน (GSB)

คุณปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN)

คุณศุภนีวรรณ จูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)

คุณอรนุช ศิรประภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารกรุงไทย (KTB)

คุณพิมพ์ใจ ทองมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย Payments Product Sales and Delivery ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ