PSTC เผยทิศทางการลงทุนในธุรกิจพลังงานปี2561 กางแผนการลงทุน 3 ปีเติบโตยั่งยืนตั้งเป้าดันบิ๊กแก๊สเข้าตลาด

อังคาร ๒๓ มกราคม ๒๐๑๘ ๑๖:๑๙
PSTC เผยทิศทางการลงทุนในธุรกิจพลังงานปี 2561 มั่นใจร่วมทุนกับบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี (BGT) มีอัตราการเติบโตในจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ LPG, CNG และ LNG รวมทั้งการขนส่งน้ำมันทางท่อ ตั้งเป้า 3 ปีเติบโตยั่งยืนตั้งเป้าดันบิ๊กแก๊สเข้าตลาดหลักทรัพย์

นายภาณุ ศีติสารประธานกรรมการบริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTCเปิดเผยว่า ย้อนหลังไปเมื่อปี 2557 PSTC ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ Maiและได้ประกาศวิสัยทัศน์ว่า "เราจะเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ" ทำให้ธุรกิจหลักของบริษัทฯ ได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากสินทรัพย์ 700 ล้านบาทเพิ่มขึ้นมากว่า 5,000 ล้านบาทในเวลา 3 ปีจากเดิมมีพนักงาน 80 กว่าคนปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 350 คน นอกจากนี้แล้วยังมีธุรกิจครอบคลุมในด้านพลังงานและไฟฟ้า และการบริหารจัดการด้านพลังงานเกือบครบทุกประเภท

สำหรับในปี 2561จะเป็นปีที่ PSTC ก้าวทะยานไปข้างหน้าด้วยรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะมีนโยบายในการสร้างความเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคตโดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตในธุรกิจ 3 ด้านคือ

1.ธุรกิจออกแบบและจำหน่ายติดตั้ง ระบบสำรองไฟฟ้า ธุรกิจออกแบบติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ธุรกิจออกแบบติดตั้งระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า (sub-station)

2.ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน vspp และ spp รวมทั้งการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศในอนาคตอันใกล้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือPPA อยู่ประมาณ 70 MW โดยมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปแล้ว 30 MW และกำลังอยู่ระหว่างทยอยสร้างเพื่อขายไฟฟ้าเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง

3. ธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ LPG, CNG และ LNG รวมทั้งการขนส่งน้ำมันทางท่อซึ่งได้เข้าไปร่วมทุนกับ บริษัทบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด หรือ BGT ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ PSTC ถือหุ้น 51% โดยตั้งเป้าหมายรายได้ที่จะเติบโตในปี 2561 มากกว่าเท่าตัว และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการขนส่งน้ำมันทางท่อภายใต้บริษัท Thai Pipeline Network หรือ TPN ซึ่งทาง บริษัทบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัดหรือBGT ถือหุ้นอยู่ 100% และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน ตลอดจนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม EIA

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด(BGT) เนื่องจากเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจขายส่งก๊าซธรรมชาติทุกประเภทซึ่งมีใบอนุญาตค้าตามมาตรา7ตามพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ.2543 ซึ่งมีอัตราการเติบโตในธุรกิจขายส่งก๊าซธรรมชาติเป็นอย่างมากอีกทั้งยังดำเนินธุรกิจก่อสร้างซ่อมบำรุงดูแลรักษาสถานีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของPTT(EPCms)ซ่อมแซมและทดสอบรถขนส่งก๊าซธรรมชาติงานจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับ LPGDepot ณ คลังน้ำมันและก๊าซบางประกง

ในส่วนของธุรกิจขายส่งก๊าซธรรมชาติในปี 2558 BGT มียอดขายกว่า100 ล้านและเติบโตอย่างรวดเร็ว ปี 2559 มียอดขายกว่า 800 ล้าน โดยในปี 2560 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ1,250 ล้านบาท สำหรับปี 2561 ประมาณการว่ายอดขายจะโต 100 % ประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่จะเกิดจากโครงการที่บริษัทมีอยู่และกำลังจะดำเนินการในปีนี้ หลังจากนั้นยอดขายน่าจะโตขึ้นประมาณ 40-50% นอกจากนี้แล้ว BGTยังมีบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี 2 สถานี ซึ่งเป็นสถานีบริการที่ตั้งอยู่แนวท่อส่งก๊าซของปตท.ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการบริการที่ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีปัญหาในด้านการขนส่ง เนื่องจากไม่ได้ใช้รถในการขนส่งแต่เป็นการขนส่งผ่านท่อส่งก๊าซโดยตรง ทั้งสองสถานีนี้เป็นสถานีขนาดใหญ่มีพื้นที่มากสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ปริมาณการขายทั้งสองสถานีค่อนข้างสูงยอดขายในแต่ละปีทั้งสองสถานีรวมกันจะอยู่ประมาณ 445 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว BGTยังมีธุรกิจก่อสร้าง ซ่อมบำรุง ดูแลรักษาสถานีก๊าซธรรมชาติซึ่งได้สัญญาในการบำรุงรักษาสถานีบริการก๊าซ NGV ของปตท.PTT(EPCms) ครอบคลุมจำนวนสถานี 50%ทั่วประเทศ

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ LNGซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติในรูปแบบของเหลวซึ่งปตท.นำเข้ามาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ทดแทนLPGในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะขนส่งได้ในปริมาณมากกว่าและให้ค่าความร้อนสูงกว่าและเป็นก๊าซที่บริสุทธิ์กว่า ซึ่งประมาณเดือนกุมภาพันธ์นี้จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดย BGTจะเป็นคู่ค้ารายแรกๆ ของปตท.ในการนำก๊าซLNGไปขายให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นโครงการใหญ่ที่เราจะให้ความสนใจในการดำเนินการในปีนี้เนื่องจากเป็นโครงการที่จะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายภาณุเปิดเผยเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้าว่า บริษัท ตั้งเป้าหมายที่จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจทั้ง 3 ด้านของบริษัท โดยธุรกิจแรกเติบโตอย่างน้อยปีละ 20-25% และตั้งเป้าว่าจะมี PPA ให้ครบ 100 MW ภายในปีนี้ และจะมี PPA ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพิ่มเป็น 200 MW ภายใน 3 ปีข้างหน้า ในส่วนของ BGT นั้นบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีส่วนแบ่งของการขาย Gas ทุกประเภทให้ได้ 7% ของส่วนแบ่งตลาดรวมใน 3 ปี และหากการลงทุนในโครงการก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันส่วนขยายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความคุ้มค่าในการลงทุน และไม่ติดปัญหาในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม EIA ธุรกิจนี้น่าจะสร้างผลตอบแทนของการลงทุนที่ดีต่อไปในอนาคต นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะนำเอา BGT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปภายใน 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์ของท่านประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ได้กล่าวไว้ในวันเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า "เราจะเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ" บริษัทมีผู้บริหารรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาร่วมพัฒนาในแต่ละด้าน บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจที่ทางกลุ่มบริษัทกำลังก้าวเดินต่อไปจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนโดยมีเป้าหมายที่จะมีสินทรัพย์รวมมากกว่า 20,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้านี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ