นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลงานปี 2560 ที่ผ่านมา "ในปีที่ผ่านมานับว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการดำเนินธุรกิจ สภาวะการลงทุนไม่เอื้ออำนวยส่งผลให้ภาพรวมการซื้อขายหลักทรัพย์ผันผวนและส่งผลกระทบกับภาวะการลงทุน แต่บริษัทฯ ก็สามารถดำเนินงานตามแผนงานที่ได้ตั้งไว้ทั้งการเปิดสาขาใหม่ และรับทีมการตลาดเพิ่มตามเป้าหมาย ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้นจำนวน 35 สาขา ไม่รวมสำนักงานใหญ่ โดยนโยบายจากนี้ไปบริษัทฯ จะไม่เน้นเรื่องการขยายสาขา เนื่องจากเราเห็นว่าสาขาที่มีอยู่เพียงพอและครอบคลุมต่อการให้บริการทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ มีลูกค้าที่เปิดบัญชีประมาณ 43,000 ราย (75,500บัญชี) คิดเป็นลูกค้าที่มีการซื้อขายประมาณ 50 % ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดฯ มีเจ้าหน้าที่ ที่ปรึกษาการลงทุน (IC) 447 คน ทีมงาน Support อีกกว่า 220 คน โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมี Market Share หรือส่วนแบ่งการตลาดที่ 2.83% เติบโตจากปี 2559 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดแค่เพียง 0.67% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด และบริษัทสามารถทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในช่องทาง Online ของบริษัทก้าวขึ้นติดอันดับ Top 5 จากอันดับที่ 32 ส่วนอัตราการเติบโตของ Margin นั้น เราให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของลูกค้าและตัวหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,175% สำหรับสินค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับตราสารทุน และ Block Trade Single Stock Futures ได้รับความนิยมจากลูกค้าหยวนต้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หยวนต้า มียอดการซื้อขายของสินค้าดังกล่าวจากลูกค้าสูงสุดติดอันดับ Top 5 ในไตรมาส 4 ของปี 2560
ส่วนแผนธุรกิจขององค์กรในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้าเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้มีผลการดำเนินงานที่เติบโตเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิต จากบริษัทฟิทช์ เรทติ้ง ระดับ AA (tha) และจากที่บริษัทประสบความสำเร็จด้านการซื้อขายด้านหลักทรัพย์ ในปีที่ผ่านมา บริษัทจะนำฐานลูกค้าของเราต่อยอดบริการให้ลูกค้าหรือนักลงทุนมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางพัฒนาธุรกิจ จากจุดแข็ง เรื่อง Product และบริการทางการเงินด้าน Wealth Management จากบริษัทแม่ที่ไต้หวัน ที่มีประสบการณ์สูง ทำให้เรามี Know How มาเสริมศักยภาพของบริษัทให้สูงขึ้น เพื่อให้บริการลูกค้าเป็นแบบ One Stop Service มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น, อนุพันธ์, SBL, Block Trade และในปีนี้ เราจะมีบริการใหม่เพิ่มขึ้น อาทิเช่น DW ,ELN ,หุ้นกู้ระยะสั้น ทั้งของบมจ. และของบริษัทหยวนต้าเอง รวมถึงเพิ่มบริการ Global Trading ซึ่ง Yuanta Financial Holdings (YFH) หรือ หยวนต้ากรุ๊ป มีสาขากระจายทั่วอาเซียน ในหลายประเทศ ทั้ง ฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลี เวียดนามกัมพูชา และไทย ทำให้เรามีความหลากหลายของข้อมูล Global Trading ที่จะมานำเสนอให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงการมี Cross-Selling Product เพื่อเสนอทางเลือกในการลงทุนแก่ลูกค้ามากขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเวลาเพียงพอ เรายังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจตัวแทนขายหน่วยลงทุนกองทุนรวม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ และสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยบริษัทได้เข้าร่วมระบบการซื้อขายหน่วยลงทุน FundConnext กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนในการซื้อขายหน่วยลงทุนด้วยตนเองผ่าน Financial Applications (ระบบ Streaming for Fund) หรือผ่านผู้แนะนำการลงทุนของบริษัทที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการวางแผนการเงินการลงทุน และที่สำคัญ เราให้ความสำคัญด้านธุรกิจ Investment Banking ซึ่งในปีนี้ เราจะดำเนินงานได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยทีมงานที่พร้อมให้บริการแก่บริษัทที่สนใจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์, เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน, การปรับโครงสร้างองค์กร และการควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions: M&A )
ในเรื่องของระบบ (System) ในปีที่ผ่านมาเราลงทุนไปมากกว่า 300 ล้านบาท เพื่อให้ระบบของเรามีบริการครบและได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมในระดับแนวหน้า เราพัฒนารูปแบบและเครื่องมือในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทครบทุกความต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา เราให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์ข่าวที่ใช้ AI ทำหน้าที่วิเคราะห์เรียกว่า Sensify สามารถหาข่าวสารในโลกโซเชี่ยลได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 วินาที และเครื่องมือนี้ได้รับรางวัลไทยแลนด์ ICT Awards 2017 (หมวดการเงิน) ซึ่งเป็นรางวัลระดับประเทศ ที่ตอกย้ำและถือเป็นการยืนยันมาตรฐานคุณภาพบริการของหยวนต้าเป็นอย่างดี และในช่วงปลายปีบริษัทยังได้เปิดให้บริการ Application ใหม่ ในชื่อ Yuanta Beyond ซึ่งเป็นอีกรูปแบบของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้กลายเป็นศูนย์กลางของเครื่องมือที่ใช้ในการลงทุน ข้อมูลข่าวสาร ที่เปิดให้ความรู้ในการลงทุนด้านหลักทรัพย์แก่นักลงทุนทั่วไป เป็นบริการที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายและเปิดให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดบริการใหม่นี้ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 ราย ซึ่งบริษัทฯ ก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้มีรูปแบบที่โดดเด่นขึ้น มีเนื้อหาที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการต่อไป
และในปีนี้เราได้เตรียมงบประมาณลงทุนไว้อีกมากกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้บริการที่ล้ำหน้าและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มีการจัดพอร์ตโฟลิโอตามความเห็นของนักวิเคราะห์และการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quant) เสนอไว้หลากหลายประเภท ตั้งแต่การลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง จนถึงระยะยาว รวมไปถึงการวางแผนการลงทุนแนว Wealth Management เช่น แผนคุ้มครองความมั่งคั่ง, แผนการศึกษา, แผนเกษียณอายุ เป็นต้น ฯลฯ
ในปี 2561 เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของ IC ของเรา โดยเราวางแผนการอบรมระยะยาวตลอด 2 ปี เพื่อให้พนักงานได้รับการพัฒนาให้เป็นที่ปรึกษาการลงทุนอย่างแท้จริง สามารถให้คำแนะนำที่มีคุณภาพและเสนอทางเลือกการลงทุนในสินค้าทางการเงินที่หลากหลาย บริษัทได้เตรียมการยกระดับผู้แนะนำการลงทุนจาก IC Plain ให้เป็น IC Complex และก้าวขึ้นสู่ Investment Planner License เพื่อให้สามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและตราสารหนี้ที่มีความซับซ้อน และเพิ่มทางเลือกในการบริหารความมั่งคั่งให้กับผู้ลงทุน สอดรับกับแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในยุค Digital รวมทั้งการเสนอแผนการลงทุนให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณเพื่อเตรียมรับมือกับวงเงินคุ้มครองเงินฝากในประเทศไทยที่มีแนวโน้มลดลงจนถึงระดับ 1 ล้านบาทต่อบัญชีธนาคาร ภายในปี 2563
ทุกแผนธุรกิจที่บริษัทวางแผนการดำเนินงานนั้น วัตถุประสงค์สำคัญคือ เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้บริการด้านการลงทุนกับบริษัทได้รับผลตอบแทนที่พึงพอใจ พอร์ตลงทุนของลูกค้ามีการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการเติบโตของบริษัท เช่นเดียวกับ Mission ขององค์กร "Stand for Wealth of People" หรือ สร้างเงินของผู้คนให้งอกงาม"