คณะกรรมการในปัจจุบันได้ดำเนินนโยบายตามแนวคิด "ไทยเท่" เพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยองค์ประกอบด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creative Economy) ผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย (Digital Economy) และความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมของไทย (Cultural Economy) เพื่อสร้างเป็นสินค้าและบริการที่แตกต่าง นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่แต่ละจังหวัด
ในขณะที่คณะกรรมการฯ ก็พยายามสร้างบุคลิกภาพของคนหอการค้าในแบบไทยเท่ ให้มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นใน 4 ด้าน คือ 1) เท่ทิศทาง (Visionary) คือ มีวิสัยทัศน์ เชี่ยวชาญ เชื่อถือได้ และเป็นแบบอย่างที่ดี 2) เท่ทีมเวิร์ค (Network) มีเครือข่ายคุณภาพ จากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย 3) เท่ทันโลก (Dynamic) คือการไม่หยุดนิ่ง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยนวัตกรรม และลงมือทำด้วยความคล่องแคล่ว และ 4) เท่ทำดี (Sustainable) สร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ ห่วงใยสังคม เสริมสร้างจรรยาบรรณ และยึดมั่นความพอเพียง
สำหรับในเรื่อง "ความเท่าเทียม" จะมองใน 2 มิติ คือ มิติภายในประเทศ ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น 1 ไร่ 1 แสน/ 1 หอการค้าดูแล 1 สหกรณ์การเกษตร/ 1 หอการค้าดูแล 1 ท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น ส่วนในมิติระหว่างประเทศ จะเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อก้าวสู่เวทีระดับสากลต่อไป ซึ่งการพัฒนาเพื่อสร้างความเท่าเทียมนี้อยู่บนพื้นฐานแนวคิดของการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน (Inclusive Growth)
ในเรื่องสุดท้ายคือ "ความยั่งยืน" เป็นสิ่งที่หอการค้าไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยผลักดันให้ผู้ประกอบการสร้างสรรค์นวัตกรรม และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พร้อมน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวคิดในการสร้างความสมดุล และสร้างความยั่งยืนต่อไป
การจัดงานฉลองครบรอบ 85 ปี จะมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมงาน อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยขอเชิญนักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจทุกท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ด้วยการร่วมประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ครบรอบ 85 ปี หอการค้าไทย ภายใต้แนวคิด "85 ปี แห่งความทุ่มเท ให้ไทยเท่ ไทยเท่าเทียม ไทยยั่งยืน" ตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลชมเชย 3 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ทั้งนี้ สามารถดูหลักเกณฑ์ในการประกวดได้ทาง www.thaichamber.org และส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2561 โดยจะประกาศผลในวันที่ 9 มีนาคม 2561